โควิด-19

จับตา เดลทาครอน "XBC" โควิด19 ลูกผสม เดลตา กับ BA.2 พบระบาดหนักที่ ฟิลิปปินส์

จับตา เดลทาครอน "XBC" โควิด19 ลูกผสม เดลตา กับ BA.2 พบระบาดหนักที่ ฟิลิปปินส์

14 พ.ย. 2565

จับตา เดลทาครอน "XBC" โควิด19 สายพัธุ์ลูกผสม ระหว่าง เดลตา กับ โอไมครอน BA.2 หลังพบระบาดหนักที่ ฟิลิปปินส์ ติดเชื้อหลายราย

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ โพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับ โควิด19 สายพันธุ์ เดลทาครอน "XBC" ซึ่งเป็นลูกผสมระหว่าง เดลตา และ โอไมครอน BA.2 พบระบาดในฟิลิปปินส์หลายราย กลายพันธุ์ไปมากกว่า XBB และ BQ.1 ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกจับตามอง เดลทาครอน

 

 

โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของ โควิด19 ปลายปีที่ 3 ซึ่ง โอไมครอน กำลังอ่อนกำลังลง และดูเหมือน เดลทาครอน หลายสายพันธุ์กำลังระบาดขึ้นมาแทนที่ เช่น "XBC" , XAY, XBA และ XAW โดยเฉพาะ เดลทาครอน "XBC" มีการกลายพันธุ์ต่างไปจาก โควิด19  สายพันธ์ดั้งเดิม อู่ฮั่น มากที่สุดถึงกว่า 130 ตำแหน่ง

 

จากการถอดรหัสพันธุ์กรรมทั้งจีโนมของ เดลทาครอน พอจะประเมินได้ว่าเป็นไวรัส โควิด19 ที่มีศักยภาพในการโจมตีปอดอย่าง เดลตา และอาจแพร่ระบาดได้รวดเร็วเหมือน โอไมครอน 

 

เมื่อต้นปี 2565 ที่ผ่านมา มีรายงานการตรวจพบ เดลทาครอน ในประเทศฟิลิปปินส์ระยะหนึ่งจากนั้นได้สูญหายไป ไม่เกิดการระบาดรุนแรงขยายวงกว้าง แต่มาในช่วงปลายปี 2565 กลับพบ เดลทาครอน ในประเทศฟิลิปปินส์อีกครั้งในรูปแบบของโควิดสายพันธุ์ "XBC" , XBA, XAY และ XAW ระบาดขึ้นมาใหม่

 

ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด (worst-case scenario) ลูกผสมเดลต้า-โอไมครอน อาจมีอันตรายพอๆ กับสายพันธุ์ เดลตา ซึ่งคร่าชีวิตผู้ที่ติดเชื้อไปประมาณ 3.4% ซึ่งสูงกว่าอัตราการเสียชีวิตของโอไมครอนเกือบสองเท่า ตามผลการศึกษาในปี 2565 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Reviews Immunology นอกจากนี้ เดลทาครอน อาจมีความสามารถในการแพร่ติดต่อได้อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับ โอไมครอน

 

แต่การทำนายความรุนแรงของสายพันธุ์ลูกผสมหรือสายพันธุ์ย่อยอุบัติใหม่เป็นเรื่องยาก เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ไม่แน่ใจว่าเหตุใด โอไมครอน จึงดูเหมือนจะก่อโรค โควิด19 ที่รุนแรงน้อยกว่า เมื่อเทียบกับเดลตา

 

เดลทาครอน XBC

 

ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าทำไม โควิด19 จึงเปลี่ยนจาก โรคทางเดินหายใจส่วนล่าง ในช่วง 2 ปีแรกที่ เดลตา และสายพันธุ์ก่อนหน้าระบาด มาเป็น โรคทางเดินหายใจส่วนบน ที่มีความรุนแรงลดลงในปีที่ 3  การเปลี่ยนแปลงอาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงนอกเหนือไปจากโปรตีนหนามซึ่งไวรัสใช้ในการเกาะติดเซลล์ของมนุษย์และหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกัน 

 

 

ทำไมประเทศไทยควรกังวล

 

เพราะประเทศฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในอาเซียนที่อยู่ใกล้ประเทศไทยขณะนี้ตรวจพบผู้ติดเชื้อโอไมครอน XBB  จำนวนถึง 81 รายพร้อมไปกับพบลูกผสม "XBC" ใน 11 จังหวัด ถึง 193 ราย ในขณะที่สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนิเชีย บรูไน กัมพูชา ก็พบ XBB และ "XBC" ด้วยเช่นกัน

 

บรรดานักวิทยาศาสตร์อาเซียนได้ช่วยกันถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสโคโรนา 2019 และแชร์ไว้บนฐานข้อมูลรหัสพันธุกรรมโควิดโลก GISAID

 

 

พบลูกผสม XBB ใน

 

- สิงคโปร์ 1,137 ราย 12.154%

- อินโดนีเซีย 90  ราย 0.623%

- บรูไน 77 ราย 4.254%

- มาเลเซีย 32 ราย 0.358%

- ฟิลิปปินส์ 20 ราย 0.490%

- กัมพูชา 1 ราย 0.197%

 

 

พบลูกผสม "XBC" ใน 

 

- ฟิลิปปินส์ 35 ราย 0.857%

- บรูไน 15 ราย 0.829%

- สิงคโปร์ 1 ราย 0.011%

- มาเลเซีย 1 ราย 0.011%

 

จากฐานข้อมูลรหัสพันธุกรรมโควิดโลก GISAID ยังไม่พบสายพันธุ์ลูกผสม XBB และ "XBC" ในประเทศไทย

 

เดลทาครอน XBC