โควิด-19

ผลวิจัย พบ แม่ลูกอ่อน ฉีด "วัคซีนโควิด" เจอปนใน น้ำนม นานสุด 48 ชั่วโมง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"วัคซีนโควิด" ไปไกลกว่าที่คิด ผลวิจัย พบ แม่ลูกอ่อน เข้ารับการ ฉีดวัคซีน เจอปนใน "น้ำนม" อยู่ใน ร่างกาย นานสุด 45 ชั่วโมง

นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 กลุ่มของหญิงตั้งครรภ์ จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ที่ต้องได้รับวัคซีนโควิดจำเป็นอย่างเร่งด่วนก่อนใคร แต่ก็เกิดคำถามขึ้นมาหลายคำถาม ไม่ว่าจะเป็น ฉีดวัคซีนแล้วจะมีผลกระทบต่อทารกในครรภ์หรือไม่ ติดโควิดแล้วกระทบต่อเด็กในท้องหรือไม่ หรือแม้แต่เมื่อมีการคลอดลูกออกมาแล้ว เมื่อถึงกำหนดต้องไปรับวัคซีนโควิด แม่ลูกอ่อนจะสามารถให้นมลูกได้เหมือนเดิมมั้ย และมีผลกระทบต่อเด็กอย่างไรหรือไม่ แต่ดูเหมือนในช่วงแรก จะยังไม่มีการวิจัยออกมา ว่าเมื่อฉีดวัคซีนแล้ว จะมีสารจากวัคซีนตกค้างในน้ำนมแม่หรือไม่

ล่าสุด ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ไบโอเทค-สวทช. เปิดเผยผลวิจัย ที่เพิ่งตีพิมพ์ในวารสาร JAMA พบว่า แม่ลูกอ่อนที่อยู่ในช่วงให้นมลูก ถ้าไปได้รับวัคซีน mRNA ไม่ว่า Moderna หรือ Pfizer มีโอกาสพบวัคซีนปนออกมาจากน้ำนมแม่ด้วย

 

 

โดยการศึกษานี้ ได้ให้คุณแม่ที่เพิ่งไปรับวัคซีนมา ภายใน 1 ชั่วโมงถึง 5 วัน หลังฉีดวัคซีน แล้วเก็บตัวอย่างน้ำนมมาตรวจหาวัคซีนด้วยวิธี RT-PCR ทีมวิจัยพบว่า ตัวอย่างน้ำนมของคุณแม่หลายท่าน สามารถตรวจพบวัคซีนปลดปล่อยออกมาได้ นานสุดที่ 45 ชั่วโมงหลังได้รับวัคซีน หลังจาก 48 ชั่วโมงไป ไม่สามารถตรวจพบได้ โดยวัคซีนที่ออกมากับน้ำนมจะอยู่ในส่วนที่เรียกว่า extracellular vesicles คล้าย ๆ กับถุงเก็บ mRNA ที่ปล่อยออกมานอกเซลล์ในต่อมน้ำนม และ ปนออกมาพร้อมกับน้ำนม

ผลวิจัยพบวัคซีนในน้ำนมแม่

ดร.อนันต์ ระบุข้อมูลนี้น่าสนใจตรงที่ว่า หลาย ๆ คนเชื่อว่า วัคซีนที่ฉีดเข้ากล้ามเนื้ออาจจะไม่ได้ไปไหนไกล คงเดินทางไปกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวในบริเวณต่อมน้ำเหลือง ที่บริเวณใกล้ตำแหน่งที่ฉีดวัคซีน และ mRNA อาจจะอยู่ในร่างกายไม่นาน เพราะเสื่อมสลายได้ง่ายกว่าวัคซีนชนิดอื่น แต่จากข้อมูลชุดนี้ทำให้เห็นว่า วัคซีนไปได้ไกลกว่าที่คาด จากกล้ามเนื้อแขนสามารถส่งต่อมาที่เซลล์ในต่อมน้ำนมของแม่ได้ ซึ่งอาจจะส่งมาทางกระแสเลือด หรือ น้ำเหลืองผ่านระบบนำส่งของวัคซีน และ อย่างน้อยอยู่ในร่างกายได้เกือบ 48 ชั่วโมง

 

 

การศึกษานี้ไม่ได้ระบุอะไรเกี่ยวกับผลของ mRNA vaccine ที่ป้อนให้เด็กทารกผ่านทางน้ำนมในช่วงที่มีการปนของวัคซีนอยู่ แต่ผู้เขียนให้ข้อระมัดระวังไว้ว่า คุณแม่ที่อยู่ในช่วงให้นมลูก อาจจะงดให้นมจากเต้าโดยตรงภายใน 48 ชั่วโมงหลังฉีดวัคซีน เพื่อเป็นการป้องกันผลจากการรับวัคซีนที่ปนออกมาต่อเด็กน้อย

ผลวิจัยพบวัคซีนในน้ำนม

 

ขณะที่ก่อนหน้านี้ รศ.นพ.สุสิทธิ์ ชัยทองวงศ์วัฒนา จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้เคยให้ข้อมูลว่า วัคซีนโควิด-19 สามารถฉีดให้แม่ระหว่างให้นมบุตร เพื่อป้องกันได้ โดยพบว่าภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้น จะถูกส่งไปยังบุตรผ่านทางน้ำนม ซึ่งอาจช่วยป้องกันทารกได้ ซึ่งการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด ในสตรีตั้งครรภ์ มีความปลอดภัยต่อมารดา และทารกในครรภ์ และอาจส่งผ่านภูมิคุ้มกันไปยังทารกในครรภ์ได้

 

นอกจากนั้น ตามข้อแนะนำของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย สำหรับคุณแม่ที่กำลังให้นมบุตร สามารถเข้ารับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ และไม่ได้มีข้อห้ามในการฉีดวัคซีน ซึ่งคุณแม่ให้นมบุตรสามารถรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ทุกประเภท และหลังจากการให้รับวัคซีน คุณแม่สามารถให้นมบุตรต่อไปได้เลย โดยไม่ต้องปั๊มนมทิ้ง และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องงดนมแม่

 

 

 

คลิกอ่านบทความต้นฉบับ

 

 

 

เพื่อไม่พลาด ข่าวสารต่างๆ คมชัดลึก ไปที่

Youtube - https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w
LineToday - https://today.line.me/th/v2/publisher/100057

เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง "คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565" ใครคือ 6 Candidate กับ 8  สาขา Popular Vote  

https://www.komchadluek.net/entertainment/524524

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ