เทียบ "โควิด" กับ ไข้หวัดใหญ่สเปน หมอธีระ เผยระบาดใหญ่เหมือนกัน แต่อัตรารุนแรงโควิดนำไปหลายขุม น่ากังวลอาจไม่จบแค่ติดเชื้อ 600 ล้านคน
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือ "หมอธีระ" โพสต์เฟซบุ๊ค Thira Woratanarat ถึงสถานการณ์โควิด ในประเทศไทย รวมไปถึงความรุ่นแรงของ ไข้หวัดใหญ่สเปน และ "โควิด" แม้ว่าจะระบาดใหญ่เหมือนกัน วิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ปัจจุบันดีกว่ามาก แต่การติดเชื้อของคนทั่วโลกกับอยู่ในอัตราใกล้เคียงกัน โดย "โควิด" ไม่เหมือน ไข้หวัดธรรมดา หรือ ไข้หวัดใหญ่ ว่า
สำหรับ สถานการณ์ "โควิด" ทั่วโลกวันนี้พบ อัตราการติดเชื้อสะสม ทะลุ 600 ล้านไปแล้ว...ใช้เวลาราว 2 ปี 9 เดือนเมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 624,379 คน ตายเพิ่ม 1,145 คน รวมแล้วติดไป 600,218,960 คน เสียชีวิตรวม 6,470,506 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รัสเซีย อิตาลี และไต้หวันเมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 14 ใน 20 อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 89.69 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 71.35
สถานการณ์ระบาด "โควิด" ของไทยจากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 14 ของโลก และอันดับ 6 ของเอเชีย แม้สธ.ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค.จนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปมากก็ตาม
รศ.นพ. ธีระ ระบุต่อไปว่า เทียบ ไข้หวัดใหญ่สเปน และ "โควิด" ไข้หวัดใหญ่สเปน นั้นถือเป็นการระบาดที่รุนแรงที่สุดในอดีต โดยทำให้คนติดเชื้อไปราว 500 ล้านคน โดยใช้เวลาตั้งแต่กุมภาพันธ์ 1918 ถึงเมษายน 1920 คิดเป็นเวลาราว 2 ปี 2 เดือน ในขณะที่โรคโควิด-19...(ไม่ใช่ไข้หวัดธรรมดา และไม่ใช่ไข้หวัดใหญ่) นั้น ก้าวข้ามไข้หวัดใหญ่ไปมาก โดยสถิติล่าสุดวันนี้ทะลุ 600 ล้านไปแล้ว โดยใช้เวลา 2 ปี 9 เดือน ลองดูช่วงที่โควิด-19 แตะ 500 ล้านคนนั้นพบว่าประมาณวันที่ 9 เมษายน 2022 หากประมาณระยะเวลาก็จะพบว่าเคสแรกในโลกพบเมื่อพฤศจิกายน 2019 นั่นคือใช้เวลาราว 2 ปี 5 เดือน
จะสังเกตว่าระยะเวลาถึง 500 ล้านคนนั้น "โควิด" พอๆ กับไข้หวัดใหญ่ แต่อย่าลืมว่ายุคสมัยต่างกันถึง 100 ปี โดยปัจจุบันมีความรู้ ความก้าวหน้าทางการแพทย์ สุขอนามัย เทคโนโลยี และอื่นๆ มากกว่าอดีตอย่างมาก แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในเรื่องของการติดเชื้อนั้นกลับไม่ต่างกันเท่าใดนัก เหตุผลหนึ่งที่พอจะอธิบายได้คือ ความหนาแน่นประชากร และปัจจัยแวดล้อมทางสังคม อาทิ รูปแบบการใช้ชีวิตที่มีความเสี่ยง
อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ต่างกันมากระหว่างอดีตกับปัจจุบันคือ จำนวนผู้เสียชีวิต โดยยุคไข้หวัดสเปนนั้นคาดประมาณว่ามีคนเสียชีวิตราว 17-50 ล้านคน ในขณะที่ยุคโควิด-19 นั้น นับถึงช่วงที่ติดไป 500 ล้านคน มีเสียชีวิตไปราว 6.2 ล้านคน อันเป็นผลมาจากยาและวัคซีน รวมถึงวิทยาการด้านการแพทย์และเทคโนโลยี
ที่น่ากังวลคือ โรคโควิด-19 ไม่ได้หยุดที่ 500 ล้าน แต่การระบาดยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส ลักษณะการใช้ชีวิตและการป้องกันตัวของประชาชน รวมถึงความไม่เป็นธรรมด้านสุขภาพที่เกิดขึ้นและทำให้การเข้าถึงบริการที่จำเป็นนั้นไม่ทั่วถึง ไม่เพียงพอ หรือไม่มีคุณภาพ เช่น การตรวจโรค การดูแลรักษา การป้องกัน และกลไกการสนับสนุนทางสังคม
ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของไทยเรา การติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันยังสูงมาก จำนวนเสียชีวิตก็ติดอันดับต้นๆ ของเอเชีย และ Top 10-20 ของโลกมาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เราตระหนักว่า การป้องกันตัวระหว่างดำรงชีวิตประจำวันถือเป็นเรื่องจำเป็น
วงวิชาการทั่วโลกมิได้กังวลแค่เรื่องติดเชื้อ ป่วย และตาย แต่ปัญหาระยะยาวอย่าง Long COVID คือ Pandora box ที่ไม่อยากให้แจ็คพอตเกิดขึ้น เพราะยังไม่มีความรู้ตกตะกอนดีพอ และยังไม่มีวิธีรักษาที่จำเพาะเจาะจงการฉีดวัคซีนช่วยลดความเสี่ยง Long COVID ได้ราว 15% ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือ การใช้ชีวิตโดยป้องกันตัวอย่างเป็นกิจวัตร การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องนั้นเป็นหัวใจสำคัญ
เพื่อไม่พลาด ข่าวสารต่างๆ คมชัดลึก ไปที่
Youtube - https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w
LineToday - https://today.line.me/th/v2/publisher/100057
เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง "คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565" ใครคือ 6 Candidate กับ 8 สาขา Popular Vote
ข่าวที่เกี่ยวข้อง