โควิด-19

"คนละครึ่งเฟส 3" ลงทะเบียน รายใหม่ได้ 3,000 คนเดิมเติม 1,500 ใช้ยาวถึงสิ้นปี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

มติ ครม. เห็นชอบปรับปรุงรายละเอียดโครงการ "คนละครึ่งเฟส 3" และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ปรับลดจำนวนกลุ่มเป้าหมายผู้ได้รับสิทธิจากเดิมลง รวม 3.4 ล้านสิทธิ เช็คคงเหลือล่าสุด สมัครใหม่ได้ 3,000 คนเดิมเติม 1,500 ทบให้ใช้ยาวไปถึงสิ้นปี

 

นางสาว กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติวันที่ 21 กันยายน 2564 รับทราบและอนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวการประชุม ครั้งที่ 34/2564 เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2564 ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้มีมติเห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียดโครงการ "คนละครึ่งเฟส 3" (ระยะที่ 3) และโครงการ ยิ่งใช้ยิ่งได้ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ดังนี้

 

 

 

  1. โครงการ "คนละครึ่งเฟส 3" ปรับลดจำนวนกลุ่มเป้าหมายผู้ได้รับสิทธิจากเดิม 31 ล้านสิทธิ เป็น 28 ล้านสิทธิ
  2. โครงการ ยิ่งใช้ยิ่งได้ ปรับลดจำนวนกลุ่มเป้าหมายผู้ได้รับสิทธิจากเดิม 1.4 ล้านสิทธิ เป็น 1 ล้านสิทธิ

ทั้งนี้ การปรับลดดังกล่าว จะทำให้มีสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 คงเหลือประมาณ 1 ล้านสิทธิ และสิทธิโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ คงเหลือประมาณ 5 แสนสิทธิ ซึ่งจากข้อมูล ณ วันที่ 20 กันยายน 2564 โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสมจำนวน 24.22 ล้านราย โดยมียอดการใช้จ่ายสะสมรวม 66,366.5 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายสะสม 33,761.7 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 32,604.9 ล้านบาท ในส่วนของโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ใช้สิทธิสะสมจำนวน 75,582 ราย โดยเป็นยอดการใช้จ่ายส่วนประชาชนสะสมรวม 2,182 ล้านบาท และยอดใช้จ่ายส่วน e - Voucher สะสม 90.7 ล้านบาท

 

ล่าสุด จากการตรวจสอบสิทธิคงเหลือ (ข้อมูล ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เวลา 07.30 น.) พบสิทธิคงเหลือ จำนวน 909,363 สิทธิ

 

คนละครึ่งเฟส 3

 

ลงทะเบียนสำหรับประชาชน

  • เริ่มลงทะเบียน 14 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 06.00 - 22.00 น.

เงื่อนไขการลงทะเบียน

  • มีบัตรประจำตัวประชาชนและเป็นบุคคลสัญชาติไทย
  • อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
  • ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ*
  • จำนวน 28 ล้านคน หรือจนกว่าสิทธิจะหมด

* ผู้ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถตรวจสอบมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติมจากภาครัฐฯ ได้ที่ www.cgd.go.th : คลิกที่นี่

การลงทะเบียนรับสิทธิ สามารถลงทะเบียนได้ 2 ช่องทาง

  1. ลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com : คลิกที่นี่
  2. ลงทะเบียนผ่านแอปฯ เป๋าตัง พร้อมผูก G-Wallet (กดแถบโครงการคนละครึ่ง)

 

 

 

เงื่อนไขใช้สิทธิผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร

โฆษกกระทรวงการคลัง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กระทรวงการคลังจะเปิดให้ประชาชนใช้สิทธิซื้ออาหารและเครื่องดื่มจากร้านอาหารและเครื่องดื่มที่เข้าร่วมโครงการผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2564 โดยรัฐจะสนับสนุนเงินในส่วนค่าอาหาร และ / หรือเครื่องดื่มเท่านั้น ไม่รวมถึงค่าจัดส่งหรือค่าใช้จ่ายอื่นใด ซึ่งขณะนี้มีผู้ให้บริการ Food Delivery Platform ที่ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการแล้ว 2 ราย และอยู่ระหว่างเชื่อมโยงระบบกับโครงการ ได้แก่

  1. Grab โดยจะเก็บค่าธรรมเนียมหรือส่วนแบ่งการขาย (Gross Profit: GP) จากร้านอาหารและเครื่องดื่มในโครงการไม่เกินร้อยละ 20 และลดค่าจัดส่งอาหารและเครื่องดื่มให้แก่ประชาชน 25 บาท เมื่อสั่งซื้อขั้นต่ำ 150 บาท สำหรับการสั่งซื้ออื่น ๆ ที่ไม่ใช่จากโครงการ
  2. LINEMAN โดยจะเก็บ GP จากร้านอาหารและเครื่องดื่มในโครงการไม่เกินร้อยละ 20 และสนับสนุนค่าจัดส่งอาหารและเครื่องดื่มในโครงการให้แก่ประชาชน 35 - 50 บาทต่อครั้ง หรือไม่เกิน 2,000 บาทตลอดระยะเวลาโครงการ พร้อมสื่อส่งเสริมการตลาดและส่วนลดสำหรับลูกค้าเพื่อเพิ่มยอดขายให้แก่ร้านค้า

 

คนละครึ่งเฟส 3, ยิ่งใช้ยิ่งได้

 

สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่ม

หากประสงค์จะขายอาหารและเครื่องดื่มในโครงการ "คนละครึ่งเฟส 3" ผ่านผู้ให้บริการ Food Delivery Platform สามารถสมัครผ่านแอปพลิเคชัน ถุงเงิน ได้ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2564 เป็นต้นไป โดยสามารถเลือกเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการ Food Delivery Platform เพื่อขายอาหารและเครื่องดื่มตามโครงการได้เพียงรายเดียว โดยสามารถตรวจสอบหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแต่ละโครงการได้ที่ www.คนละครึ่ง​.com และ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้​.com

นอกจากนี้ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 กระทรวงการคลังจะโอนวงเงินสนับสนุนให้แก่ผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส ระยะที่ 3 รอบที่ 2 เพิ่มเติม จำนวน 1,500 บาท โดยนำไปรวมกับวงเงินสิทธิคงเหลือจากรอบแรกให้อัตโนมัติ ทั้งนี้ ประชาชนยังคงสามารถใช้จ่ายในโครงการต่าง ๆ ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564

 

ลงทะเบียนสำหรับร้านค้าใหม่

  • เริ่มลงทะเบียน 14 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 06.00 - 22.00 น.

เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ

  • คุณสมบัติและประเภทกิจการที่สามารเข้าร่วมโครงการได้ คลิกอ่านรายละเอียด
  • ไม่ได้จดทะเบียนในรูปแบบนิติบุคคล
  • ไม่เป็นร้านสะดวกซื้อที่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์

** สำหรับร้านค้าในโครงการคนละครึ่งเดิม ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ให้ดำเนินการอัปเดตเวอร์ชั่นถุงเงินให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด เพื่อรับสิทธิในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564

ช่องทางการลงทะเบียนร้านค้าใหม่

  1. สำหรับบุคคลธรรมดา ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ เท่านั้น : คลิกที่นี่
  2. กองทุนหมู่บ้านและวิสาหกิจชุมชน ลงทะเบียนผ่านสาขาหรือจุดบริการของธนาคารกรุงไทย ทั่วประเทศ ในเวลาทำการ

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ