"ออสเตรเลีย" วุ่น "โควิด-19" ระลอกใหม่ระบาดอย่างรุนแรง ขอความร่วมมือ ประชาชน สวมหน้ากากอนามัย รีบฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อลดตัวเลขผู้ติดเชื้อในครั้งนี้
"ออสเตรเลีย" ขอความร่วมมือ ประชาชนกลับมา สวมหน้ากากอนามัย รวมถึง รับการฉีดวัคซีนกระตุ้น แนะนำด้านธุระกิจให้พนักงานทำงานที่บ้าน หรือ work from home อีกครั้ง หลัง "โควิด-19" ระลอกใหม่กลับมาระบาดอย่างหนัก ทำให้ผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ส่งผลต่อให้โรงพยาบาลเริ่มวิกฤต
โดย ประเทศออสเตรเลีย กำลังเผชิญหน้ากับการระบาดของเชื้อไวรัส "โควิด-19" ระลอก 3 จากไวรัสโอไมครอน สายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ซึ่งมีความสามารถกระจายเชื้อได้เร็วมากยิ่งขึ้น ทำให้จำนวนผู้ป่วยที่ต้องรับการรักษาในโรงพยาบาลใกล้สถานที่พักมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงเป็นการแตะระดับสูงสุดเท่าที่เคยมีมา หลังจากที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มกว่า 30,000 รายต่อวัน ตลอดช่วง 7 วันที่ผ่านมา
ซึ่ง ทางการของ ประเทศออสเตรเลีย ได้ออกมายืนยันตัวเลขผู้ติดเชื่อเมื่อวันพุธที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พบว่าผู้ติดเชื้อ "โควิด-19" รายใหม่มากถึง 53,850 ราย เพียงแค่วันเดียว ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบสองเดือนที่ผ่านมา
โดย นายกรัฐมนตรี "แอนโธนี อัลบานีส" ของ ประเทศออสเตรเลีย กำลังเผชิญกับกระแสความกดดันให้ทบทวนกับการ กลับมาใช้มาตรการหยุดยั้งการระบาดอย่างเข้มงวดอีกครั้ง ซึ่งรวมถึงการบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด ซึ่งได้กล่าวครั้งนี้ว่า " ความจริงก็คือ หากมีการออกคำสั่ง คุณจะต้องบังคับใช้มัน แต่ตอนนี้ แม้จะยังมีการบังคับให้สวมหน้ากากในระบบขนส่งสาธารณะ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ปฏิบัติตาม " อัลบานีสกล่าวกับผู้สื่อข่าว
โดย อัลบานีส กล่าวเสริมว่า " ในส่วนของภาคธุรกิจควรต้องมีการหาข้อตกลงร่วมกันกับพนักงานในเรื่องการทำงานจากที่บ้าน หรือ การ work from home ขณะที่สหภาพแรงงานเริ่มออกมากดดันให้นายจ้างมีความรับผิดชอบต่อพนักงานมากขึ้น "
ทางด้าน "พอล เคลลี" หัวหน้าสำนักงานการแพทย์ออสเตรเลียได้ออกมาระบุว่า " ในอีกไม่ช้า เราอาจจะได้เห็นผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้เกินขีดจำกัดกับที่โรงพยาบาลกำหนดไว้ ซึ่งเราก็รู้ว่าการทำงานจากที่บ้านเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยหยุดการระบาดเป็นวงกว้างได้ "
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังคงเตือนว่า ยอดติดเชื้อ "โควิด-19" ที่จริงอาจสูงกว่าตัวเลขที่รายงานจากทางการอยู่มาก ส่งผลให้รัฐบาลตัดสินใจออกคำแนะนำให้ประชาชนกลับมา สวมหน้ากากอนามัย อย่างเคร่งครัด และเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นกันอย่างเร่งด่วนทันที พร้อมกับเรียกร้องไปยังภาคธุรกิจให้อนุญาตให้พนักงาน หรือ ลูกจ้าง กลับมาทำงานที่บ้านอีกครั้ง
โดย คำแนะนำดังกล่าว มีขึ้นท่ามกลางคำเตือนจากเจ้าหน้าที่ของสาธารณสุขที่กังวลว่า ความล่าช้าในการได้รับการ ฉีดวัคซีน ให้ประชาชน อาจทำให้การระบาดของเชื้อไวรัส "โควิด-19" นี้มีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง โดยจากข้อมูลทางการพบว่า แม้ปัจจุบันจะมีชาวออสเตรเลียที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว 95% แต่มีเพียงแค่ 71% เท่านั้นที่ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว
เพื่อไม่พลาด ข่าวสารต่างๆ คมชัดลึก ไปที่
Website - www.komchadluek.net
Facebook - https://www.facebook.com/komchadluek
LineToday - https://today.line.me/th/v2/publisher/100057
ที่มา reuters
CREDIT PHOTO : channelnewsasia
ข่าวที่เกี่ยวข้อง