โควิด-19

เปิดข้อมูล "โอไมครอน" BA.5 มาแรงแซงทุกสายพันธุ์ ดื้อต่อภูมิถึง 3 เท่า

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"หมอธีระ" เปิดข้อมูล "โอไมครอน" Omicron สายพันธุ์ย่อย BA.5 มาแรงแซงรุ่นพี่ทุกสายพันธุ์ ดื้อต่อภูมิคุ้มกันสูง 3 เท่า วัคซีนเข็มกระตุ้น สำคัญ

(28 มิถุนายน 2565) "หมอธีระ" นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat อัปเดตสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโควิดประจำวัน ระบุว่า เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 319,681 คน ตายเพิ่ม 672 คน รวมแล้วติดไป 549,502,404 คน เสียชีวิตรวม 6,351,665 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ บราซิล ไต้หวัน อิตาลี ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา

เมื่อวานนี้ จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 6 ใน 10 อันดับแรก และ 13 ใน 20 อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 58.24 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 58.33

 

สถานการณ์ระบาดของไทย

 

จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 10 ของโลก และอันดับ 2 ของเอเชีย แม้ สธ.ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค.จนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปมากก็ตาม

 

อัพเดตเรื่องวัคซีนในอเมริกา

 

สัปดาห์นี้คณะกรรมการด้านวัคซีน VRBPAC ของ US FDA จะประชุมหารือกันว่า จะพิจารณาให้มีการนำวัคซีน โควิดที่ผลิตมา โดยเพิ่มสำหรับสายพันธุ์ โอไมครอน Omicron (BA.1) มาใช้หรือไม่ ที่นักวิชาการหลายคนกังวลคือ ผลการศึกษาพบว่า หากนำมาฉีดเป็นเข็มกระตุ้น ดูจะสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันในน้ำเลือดได้สูงขึ้นหลายเท่าจริง แต่ข่าวร้ายคือ ไวรัสสายพันธุ์ Omicron BA.4/BA.5 นั้น ดื้อต่อภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นกว่า 2.5 เท่า เมื่อเทียบกับสายพันธุ์ย่อย BA.1 ซึ่งทำให้ในเชิงวิชาการแพทย์อาจมีคำถามว่าจะคุ้มหรือไม่ ที่จะนำมาใช้แทนวัคซีนรุ่นเดิม 

เปิดข้อมูล "โอไมครอน" BA.5 มาแรงแซงทุกสายพันธุ์ ดื้อต่อภูมิถึง 3 เท่า

 

ติดตามช่องทางโซเชียลได้ทางเพจ คมชัดลึก

นอกจากนี้ ยังเกิดคำถามสำคัญคือ การไล่ตามผลิตวัคซีนให้จำเพาะต่อสายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้นนั้น ใช้เวลานานหลายเดือน กว่าจะได้ผลวิจัยและผลิตออกมาใช้ สายพันธุ์ที่ผลิตออกมาก็อาจตามไม่ทันการกลายพันธุ์ของไวรัส หรืออาจต้องใช้วัคซีนรุ่นเดิมที่ใช้อยู่ในปัจจุบันต่อไป ทั้งนี้ คงต้องรอติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิดว่า ผลการหารือจะมีประเด็นสำคัญแลกเปลี่ยน และมีผลสรุปอย่างไร

 

เกี่ยวกับ Omicron สายพันธุ์ย่อย BA.5

 

เป็นลูกหลานในตระกูล โอไมครอน Omicron ที่กลายพันธุ์แตกออกมา โดยมีลักษณะพันธุกรรมแตกต่างจากรุ่นดั้งเดิมอย่าง BA.1 และต่างจากรุ่นพี่ BA.2 มาก ในแง่ความแข็งแรง หรือ fitness ของไวรัสนั้น หากเทียบกันในแต่ละสายพันธุ์ที่เกิดขึ้นรอบสองปีกว่าที่ผ่านมา จะพบว่า ไวรัสโรคโควิด-19 มีความแข็งแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่สายพันธุ์อู่ฮั่น D614G อัลฟ่า เดลตา จนมาถึง Omicron BA.1 BA.2 ที่สูงสุดตามลำดับ แต่สำหรับ BA.5 นั้น แม้จะยังไม่ได้คำนวณและพล็อตลงไปในกราฟก็ตาม ข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน ชี้ให้เห็นว่า มีสมรรถนะในการแพร่มากกว่ารุ่นพี่อย่าง BA.1 และ BA.2 อย่างชัดเจน โดยมีอัตราการเติบโต/ขยายเพิ่ม สูงกว่า และดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากกว่า BA.1 ราว 3 เท่า ทำให้ได้รับการประเมินว่าจะมี Viral fitness สูงกว่าทุกสายพันธุ์ที่เคยมีมา

เปิดข้อมูล "โอไมครอน" BA.5 มาแรงแซงทุกสายพันธุ์ ดื้อต่อภูมิถึง 3 เท่า

 

หมอธีระ ย้ำว่า ด้วยข้อมูลข้างต้น ทำให้เราต้องตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันตัว ไม่ประมาทในการใช้ชีวิต การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นนั้นมีความจำเป็น เพื่อลดโอกาสป่วยรุนแรงและเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม เน้นย้ำว่า แม้จะฉีดวัคซีนแล้ว หากไม่ป้องกันตัว ก็จะติดเชื้อได้ ป่วยได้ ตายได้ และมีโอกาสเกิดภาวะผิดปกติระยะยาวอย่าง Long COVID

 

ดังนั้น การออกตะลอนนอกบ้าน ทำมาค้าขาย ศึกษาเล่าเรียน ทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันนั้น จึงควรใส่หน้ากากเสมอ ให้คุ้นชิน เป็นอวัยวะที่ 33 ของร่างกาย จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อแพร่เชื้อได้มากใส่หน้ากากนะครับ...สำคัญมาก

เปิดข้อมูล "โอไมครอน" BA.5 มาแรงแซงทุกสายพันธุ์ ดื้อต่อภูมิถึง 3 เท่า

 

ติดตามข่าวอื่นๆได้ที่ช่องทาง คมชัดลึก

ที่มา Thira Woratanarat

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ