กระทรวงสาธารณสุข เตรียมนำร่องปรับคำแนะนำในบางพื้นที่ให้สวม "หน้ากากอนามัย" ใน 3 กรณี กลางเดือนมิถุนายนนี้ หลัง โควิด19 ดีขึ้น เตรียมปรับเป็น "โรคประจำถิ่น"
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานสำคัญ รวมทั้งการเตรียมการของพื้นที่เพื่อรับการเปลี่ยนผ่านโรค โควิด19 เข้าสู่การเป็น "โรคประจำถิ่น " และการเตรียมนำร่องปรับคำแนะนำในบางพื้นที่ในการสวม "หน้ากากอนามัย" กลางเดือนมิถุนายนนี้
โดยระบุว่า ปัจจุบันสถานการณ์ดีขึ้นต่อเนื่องและเร็วกว่าฉากทัศน์ที่คาดการณ์ มั่นใจว่าจะเข้าสู่การเป็น "โรคประจำถิ่น" ตามเวลาที่วางแผนไว้ หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่จึงต้องมีการบริหารด้านสังคมร่วมด้วย โดยนำร่องกิจกรรมในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโควิด19 อย่างปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจกับประชาชน
ทั้งนี้ ประมาณกลางเดือนมิถุนายน จะนำร่องปรับคำแนะนำในบางพื้นที่ให้สวม "หน้ากากอนามัย" ใน 3 กรณี คือ
1. กลุ่มผู้ป่วยหรือกลุ่มเสี่ยง 608
2. อยู่ในสถานที่ปิด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก
3. กิจกรรมที่มีคนร่วมกันจำนวนมาก
พร้อมทั้งขอให้สื่อสารไปถึงประชาชนให้ทราบการปฏิบัติตนและเรียนรู้ที่จะอยู่กับโรค โควิด19 ต่อไป
นพ.เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องกัญชาทางการแพทย์ วันที่ 9 มิถุนายนนี้ จะครบกำหนด 120 วัน ที่การปลดล็อคกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติดมีผลบังคับใช้ ประชาชนสามารถปลูกโดยไม่ต้องขออนุญาต เพียงแต่จดแจ้งผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ของ อย. โดยจะมีกฎหมายเพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้กัญชาเสรีในทางที่ผิด ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมาธิการ จึงต้องใช้กฎหมายด้านสาธารณสุขที่มีอยู่มาควบคุมกำกับก่อน เช่น พ.ร.บ.การสาธารณสุข
ขณะเดียวกันก็ให้ทุกหน่วยงานช่วยกันส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนได้ใช้ในครัวเรือน และพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพในการต่อยอดทางเศรษฐกิจ โดยในวันที่ 10-12 มิถุนายน 2565 จะมีการจัดมหกรรม "360 องศา ปลดล็อคกัญชา ประชาชนได้อะไร" ที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อตอกย้ำและสร้างความมั่นใจในการปลูกและใช้ประโยชน์จากกัญชาด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง