หมอยง เปิดผลการศึกษา พบเด็กเล็กติดเชื้อ "โอไมครอน" เยอะกว่าที่คิด ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ และไม่ได้ "ฉีดวัคซีน" คาดจะพบเยอะกว่านี้
การระบาดของ "โอไมครอน" แม้จะพบจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง แต่ก็ยังเป้นกังวล เพราะผู้ติดเชื้อบางรายไม่แสดงอาการ จึงไม่รู้ว่าติดเชื้อหรือไม่ โดย "หมอยง" ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟสบุ๊ก Yong Poovorawan เผยว่า การติดเชื้อมีทั้งมีอาการและไม่มีอาการ การสำรวจการติดเชื้อในประชากรมีเป็นจำนวนเท่าไหร่แล้วในอเมริกา จะตรวจ anti-nucleocapsid ของไวรัส พบว่ามีการติดเชื้อไปแล้วกว่าครึ่งหนึ่งของประชากร
สำหรับประเทศไทย การตรวจดังกล่าวไม่สามารถทำได้ ประเทศที่ฉีดวัคซีนเชื้อตาย ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจะมีภูมิทั้งตัวไวรัส ไม่ใช่เฉพาะแค่ สไปรท์เท่านั้น จะตรวจพบ anti-nuclecapsid ด้วย จึงแยกไม่ได้ว่าภูมิที่ตรวจพบนี้ เกิดจากการติดเชื้อ หรือเกิดจากการได้รับวัคซีนเชื้อตาย
ดังนั้นทางศูนย์ที่ผมทำการศึกษาอยู่ อยากทราบว่ามีการติดเชื้อไปแล้วเท่าไหร่ จึงสามารถทำได้เฉพาะในเด็ก โดยเฉพาะในเด็กที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีน การสำรวจจึงใช้ประชากรเด็กที่อายุ 5-6 ปีก่อนการฉีดวัคซีนตามกำหนดของประเทศไทย เพื่อให้ทราบอัตราการติดเชื้อไปแล้วว่าเป็นเท่าไหร่
จากการศึกษา เด็กปกติในโครงการของศูนย์ ที่ติดตามภูมิต้านทานของ วัคซีนไอกรน ในจำนวนนี้มีการติดเชื้อแบบมีอาการ และไม่มีอาการ จะเห็นว่า ภาพรวมการติดเชื้อในเด็ก 5 - 6 ขวบ ในช่วงที่มีการระบาดของเดลต้า จะพบว่าเด็ก 5 - 6 ขวบ ติดเชื้อไปแล้ว ประมาณ 8 เปอร์เซ็นต์ พอมาช่วง "โอไมครอน" พบการติดเชื้อในเด็กไปแล้วถึง 17% กว่าครึ่งหนึ่งเป็นการติดเชื้อเป็นแบบไม่มีอาการ ตรวจเลือดพบร่องรอยการติดเชื้อ คือตรวจพบ anti-nucleocapsid เด็กกลุ่มนี้ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน
เมื่อมาดูประชากรอีกกลุ่ม เป็นอาสาสมัครมาฉีดวัคซีน ในกลุ่มต่างๆ ในโครงการศึกษาภูมิต้านทานของวัคซีนในเด็ก เด็กกลุ่มนี้จะไม่มีประวัติ หรือมีอาการการติดเชื้อ โควิด19 มาก่อน แต่เมื่อมาตรวจเลือดก่อนฉีดวัคซีนจะตรวจพบการติดเชื้อมาแล้ว โดยตรวจพบภูมิต้านทาน anti-nucleocapsid และภูมิต้านทานต่อสไปรท์โปรตีนแล้ว แสดงถึงการติดเชื้อมาแล้ว ตรวจพบการติดเชื้อแบบไม่มีอาการ ถึงร้อยละ 8
แสดงว่าในระยะเวลาที่ผ่านมาในเด็กเล็ก ติดเชื้อไปแล้ว มีแนวโน้มที่จะมากขึ้นมาโดยตลอด และเป็นการติดเชื้อแบบไม่มีอาการ เด็กก็จะสามารถสร้างภูมิต้านทานได้
ในเด็กโตและผู้ใหญ่ ประชากรไทยน่าจะมีการติดเชื้อไปแล้วเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นการติดเชื้อแบบไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อย ร่างกายก็จะสร้างภูมิต้านทานขึ้น เป็นอีกแรงหนึ่งในการช่วยการสร้างภูมิ เป็นวัคซีนธรรมชาติที่เกิดขึ้น และในอนาคตผู้ที่เคยติดเชื้อไปแล้ว ถึงแม้จะติดโรค ความรุนแรงของโรคก็จะลดลง
การสำรวจการติดเชื้อไปแล้ว มีประโยชน์อย่างยิ่งที่จะนำมาใช้ในการวางแผนควบคุมโรค โควิด19 โดยใช้องค์ความรู้มาประกอบ ศูนย์ที่ผมทำอยู่ กำลังมีโครงการที่จะดำเนินการในแนวกว้าง แต่จะทำได้ยากจากการตรวจเลือดในผู้ใหญ่ เพราะบ้านเรามีการฉีดวัคซีนเชื้อตายเป็นจำนวนมาก จะต้องใช้ประวัติการป่วย การสัมผัสโรค ประวัติวัคซีนและการตรวจเลือด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง