โควิด-19

"วัคซีนโควิด" ChulaCov19 ผลิตลอตแรกในไทยแล้ว เตรียมยื่น อย. ทดสอบในคน

"วัคซีนโควิด" ChulaCov19 ผลิตลอตแรกในไทยแล้ว เตรียมยื่น อย. ทดสอบในคน

06 พ.ค. 2565

"อ.เจษฎ์" เผยข้อมูลคืบหน้า "วัคซีนโควิด" ChulaCov19 ผลิตลอตแรกในไทยแล้ว เตรียมยื่น อย. ทดสอบในคน หากทดสอบตามเป้าหมาย คาดขึ้นทะเบียนได้ภายในปลายปีนี้

ความคืบหน้าการผลิต "วัคซีนโควิด" ChulaCov19 สัญชาติไทย ซึ่งมีหลายคนถามถึงนั้น "อ.เจษฎ์" รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าล่าสุด ซึ่งตอนนี้สามารถผลิตวัคซีนล็อตแรก ด้วยโรงงานในประเทศไทยเองได้แล้ว

 

โดย ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ผอ.บริหารโครงการพัฒนาวัคซีนโควิด19 ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการพัฒนา "วัคซีนโควิด" ChulaCov19 ชนิด mRNA สัญชาติไทย ว่า

 

ภาพรวมถือว่าเป็นข่าวดี ซึ่งการพัฒนาระยะแรกเป็นการออกแบบวัคซีนและให้โรงงานในสหรัฐอเมริกาผลิตลอตแรก มีข่าวดีว่า ผ่านการพิสูจน์ในอาสาสมัครระยะที่ 1 และ 2 เรียบร้อยแล้วมีความปลอดภัย กระตุ้นภูมิได้สูงเป็นที่น่าพอใจ ขนาดที่เราเลือกเมื่อเทียบกับวัคซีนไฟเซอร์ที่อนุมัติใช้ในไทย เราได้ภูมิที่สูงกว่าชัดเจน

 

ส่วนระยะที่ 2 คือ การผลิตวัคซีนในประเทศ โดยบริษัท ไบโอเน็ตเอเชีย จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานในไทย สามารถผลิตวัคซีนลอตแรกเรียบร้อยแล้ว ผ่านการประกันคุณภาพแล้ว ทีมวิจัยได้ส่งเอกสาร ข้อมูลต่างๆ เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อขอทดสอบในอาสาสมัครระยะที่ 1 และ 2 อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจาก อย. คาดว่าจะได้รับคำตอบเร็วๆ นี้ หากทดสอบได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ น่าจะขอขึ้นทะเบียนวัคซีนได้ภายในปลายปี 2565

 

"ขณะนี้สถานการณ์แพร่ระบาดในประเทศเริ่มดีขึ้น แต่การพัฒนาวัคซีนไม่ได้หยุด เราอยากเห็นวัคซีนรุ่นที่ 1 ที่ผลิตโดยคนไทยที่ตอนนี้พัฒนากันอยู่ 3 ชนิด ได้แก่ วัคซีน mRNA ของจุฬาฯ วัคซีนใบยา และวัคซีนขององค์การเภสัชกรรม หากขึ้นทะเบียนได้ก่อน 1 ชนิด หรือทั้งหมดจะยิ่งดี โดยวัคซีนรุ่นที่ 1 ตามขั้นตอนควรได้รับการขึ้นทะเบียนก่อน ผ่านการพิสูจน์ว่าปลอดภัย ระหว่างขอขึ้นทะเบียนก็มีการพัฒนารุ่นที่ 2 เพื่อป้องกันเชื้อโอไมครอน ไปพร้อมกัน เพื่อรอขึ้นทะเบียนลำดับต่อไป" ศ.นพ.เกียรติกล่าว

 

ศ.นพ.เกียรติ กล่าวต่อว่า การที่ประเทศไทยมีเทคโนโลยีของเราเอง ตั้งแต่คิดค้น ออกแบบ ทดสอบ และผลิตได้ในโรงงานในประเทศ ทำให้เราพึ่งพาตัวเองได้ หากเกิดการระบาดของโควิดกลับมาใหม่ ไม่ว่าสายพันธุ์ไหน หรือเกิดโรคระบาดใหม่ๆ ขึ้น เราก็จะสามารถพัฒนาวัคซีนได้เองในระยะเวลาที่เร็วขึ้น เพราะเราพัฒนาได้ครบห่วงโซ่ด้วยตัวเราเอง