"อ.เจษฎ์" ผิดหวังอดลองของใหม่ วัคซีน Moderna gen 2 สู้ "โอไมครอน" หลังฉีด 1 เดือน ภูมิพุ่งกว่าสูตรมาตรฐาน 2 เท่า ผลิตปลายปี 65
"อ.เจษฎ์" รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ อัปเดตความคืบหน้าของวัคซีนโควิด gen2 ของโมเดอร์นา โดยระบุว่า วัคซีนสูตรใหม่นี้ จะกระตุ้นภูมิให้ต้านสายพันธุ์โอมิครอน หรือ "โอไมครอน" ได้มากขึ้นจากเดิม 2 เท่า และหากผ่านการทดลองแล้ว จะผลิตออกมาช่วงปลายปี 2565 นี้
"อ.เจษฎ์" บอกว่า เสียดายผมจองฉีดเข็มหน้าเอาไว้ปลายเดือน พ.ค. นี้ ไม่ทันได้ลองของใหม่เลย (หวังว่าที่จะระบาดตามฤดูหนาวอีกปลายปีนี้ คงจะไม่ระบาดหนักแล้ว จะได้ต้องไม่ฉีดกระตุ้นเพิ่มอีก)
ทั้งนี้ วันที่ 3 พฤษภาคม 2565 โมเดอร์นา เผยผลวิจัยทางคลินิกเบื้องต้นของวัคซีนเข็มกระตุ้นสูตร mRNA-1273.211 ซึ่งเป็นสูตรผสมของสายพันธุ์ดั้งเดิมและสายพันธุ์เบตา ในปริมาณเท่ากันอย่างละครึ่ง รวม 50 ไมโครกรัม โดยหลังฉีด 1 เดือน ภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ "โอไมครอน" โอมิครอนของอาสาสมัคร มีระดับสูงกว่าการกระตุ้นด้วยวัคซีนเข็มกระตุ้นสูตรมาตรฐานรุ่นปัจจุบันประมาณ 2.20 เท่า (1,408 เทียบกับ 629) และหลังผ่านไป 6 เดือน ภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโอมิครอนยังคงระดับที่สูงกว่า 2.15 เท่า (317 เทียบกับ 146)
ด้านผลข้างเคียงของวัคซีนสูตรนี้ บริษัทยา ระบุว่า อาสาสมัครมีการยอมรับวัคซีนได้ดี อาการไม่พึงประสงค์ที่พบมีความคล้ายคลึงกับที่มีการรายงานจากวัคซีนสูตรมาตรฐานขนาด 50 ไมโครกรัม ซึ่งเป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นที่ใช้ฉีดอยู่ในปัจจุบันนี้ โดยอาการส่วนใหญ่อยู่ในระดับเล็กน้อย-ปานกลาง
ด้าน Stéphane Bancel ซีอีโอของบริษัทโมเดอร์นา กล่าวว่า ผลการทดสอบวัคซีนสูตรผสมตัวแรกที่บริษัทพัฒนาขึ้นนี้ แสดงให้เห็นว่า วัคซีนสูตรผสมนี้ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้มี mRNA ของสายพันธุ์ "โอไมครอน" หรือ โอมิครอน เป็นส่วนประกอบ แต่ก็สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโอมิครอนและสายพันธุ์น่ากังวลชนิดอื่น ๆ ได้ในระดับที่สูงกว่าวัคซีนสูตรมาตรฐาน
นอกจากนี้ บริษัทกำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบทางคลินิกระยะที่ 2/3 ของวัคซีนเข็มกระตุ้นรุ่นใหม่อีกหนึ่งสูตรคือ mRNA-1273.214 ซึ่งเป็นวัคซีนสูตรผสมระหว่างสายพันธุ์ดั้งเดิม และสายพันธุ์โอมิครอน โดยคาดว่าผลการทดสอบเบื้องต้น จะออกมาภายในไตรมาสที่สองของปีนี้ โดยทั้งวัคซีน mRNA-1273.211 และ mRNA-1273.214 นั้น ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นตัวเลือกของการใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นรุ่นใหม่ที่จะผลิตออกมาในช่วงปลายปีนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง