"โอไมครอน" เจอสูตรวัคซีนรับมือสู้ได้แล้ว "หมอเฉลิมชัย" เผย สามารถกระตุ้นภูมิได้เพิ่มขึ้น 29-33 เท่า ศึกษา BA.2 ต่อ
น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ "หมอเฉลิมชัย" รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" ระบุว่า กระตุ้นเข็ม 3 ด้วยวัคซีน Moderna ตามหลังฉีด Astrazeneca 2 เข็ม พบภูมิคุ้มกันเพิ่มสูงขึ้น 29-33 เท่า โดยรับมือกับ BA.2 ได้น้อยกว่า BA.1 แต่รับมือ "โอไมครอน" ได้
"หมอเฉลิมชัย" ระบุว่า สถานการณ์โควิดระลอกที่ 4 ของไทย ซึ่งเกิดจากไวรัสโอมิครอน หรือ "โอไมครอน" ตั้งแต่มกราคม 2565 เป็นต้นมานั้น พบการเปลี่ยนแปลงของไวรัสสายพันธุ์หลักจากสายพันธุ์ย่อยที่ 1 (BA.1) ในช่วงเดือนธันวาคม 2564 มาเป็นเริ่มพบสายพันธุ์ย่อยที่ 2 (BA.2) ในเดือนมกราคม 2565 และปัจจุบันเป็นสายพันธุ์ BA.2 เกือบทั้งหมดแล้วนั้น ทำให้เป็นที่น่าสนใจว่า การฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 จะสามารถรับมือไวรัส "โอไมครอน" ได้มากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะสายพันธุ์ BA.2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักในขณะนี้
มีข้อมูลการศึกษาประสิทธิผลของวัคซีนที่เชียงใหม่ ในช่วงมกราคมถึงมีนาคม 2565 พบว่า การฉีด 2 เข็ม ป้องกันการติดเชื้อไม่ได้ แต่ลดการเสียชีวิตได้ 85%
ส่วนการฉีด 3 เข็ม มีประสิทธิผลป้องกันการติดเชื้อได้ 34-68% และลดการเสียชีวิตได้ 98%
ที่น่าสนใจคือ แล้วระดับภูมิคุ้มกันที่ขึ้นจากการฉีดวัคซีน 3 เข็ม มีมากกว่า 2 เข็ม มากน้อยเพียงใด และมีความแตกต่างระหว่างสายพันธุ์ย่อยที่หนึ่งและสองอย่างไรบ้าง ขณะนี้มีคำตอบแล้ว จากการศึกษาวิจัยเบื้องต้นของคณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารชั้นนำของโลก (Journal of Infectious Diseases)
โดยเป็นการตรวจเลือดในอาสาสมัครจำนวน 30 ราย ที่มีอายุมากกว่า 18 ปี อายุเฉลี่ย 50 ปี โดยได้รับการฉีดวัคซีน Astrazeneca 2 เข็ม และไม่เคยติดเชื้อโควิดมาก่อนทำการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 Moderna ห่างจากเข็มที่สอง 5-7 เดือน
หลังจากนั้น ทำการเก็บเลือด เพื่อดูระดับภูมิคุ้มกันที่ 28 วัน หลังจากการฉีดวัคซีนเข็ม 3 พบว่า ระดับภูมิคุ้มกันต่อไวรัส BA.1 เพิ่มขึ้นจาก 16.6 เป็น 548
และต่อสายพันธุ์ BA.2 เพิ่มขึ้นจาก 11 เป็น 324 จึงกล่าวได้ว่า การฉีดวัคซีนเข็มสาม ของ Moderna ตามหลังฉีดวัคซีนสองเข็มของ Astrazeneca สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อไวรัส "โอไมครอน" ได้เพิ่มขึ้น 29-33 เท่า ซึ่งเพียงพอที่จะรับมือกับไวรัส Omicron โดยที่มีความแตกต่างคือ ประสิทธิผลต่อไวรัสสายพันธุ์ย่อยที่สอง (BA.2) ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักในปัจจุบัน ได้น้อยกว่าสายพันธุ์ย่อยที่หนึ่งอยู่ 1.7 เท่า จึงทำให้จำเป็นจะต้องติดตามการศึกษาต่อไปว่า ระดับภูมิคุ้มกันของการฉีดวัคซีนเข็ม 3 จะอยู่ต่อไปได้นานอีกเท่าใด ซึ่งมีข้อมูลเบื้องต้นจากบางประเทศว่า อยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง