โควิด-19

WHO แนะ "ฉีดวัคซีน" เพื่อยับยั้งไวรัสกลายพันธุ์ คาด BA.5 จะระบาดแทนที่ BA.2

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

WHO แนะ "ฉีดวัคซีน" อย่างน้อย 70% ในประชากรทุกกลุ่มทุกประเทศ เพื่อยับยั้งไวรัสกลายพันธุ์ คาด BA.5 จะระบาดมาแทนที่ BA.2

จากสถานการณ์การระบาด โควิด ที่นอกจากจะระบาดอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังสามารถกลายพันธุ์จากเดิม เป็นสายพันธุ์ย่อยเพิ่มขึ้น โดยทาง เพจ Center for Medical Genomics ระบุ ถึงความจำเป็นในการ "ฉีดวัคซีน" เพื่อยับยั้งไม่ให้ไวรัสกลายพันธุ์เพิ่มขึ้น

 

WHO เห็นว่าการแพร่ระบาดของ โควิด ไปทั่วโลกขณะนี้ สามารถปรับลดระดับให้กลายเป็นโรคประจำถิ่นได้ (อยู่ภายใต้การควบคุมของสาธารณสุขของแต่ละประเทศ) ภายในปี 2565 นี้ หากมีความเท่าเทียมกันในการเข้าถึงวัคซีนและยาต้านไวรัส และที่สำคัญต้องมีการ "ฉีดวัคซีน" อย่างน้อย 70% ในทุกกลุ่มประชากรและในทุกประเทศ เพื่อยับยั้งไวรัสไม่ให้กลายพันธุ์

 

โควิด เป็นปัญหาของโลก ไม่ใช่ของประเทศใดประเทศหนึ่ง ไวรัสจะหลบไปกลายพันธุ์ในประเทศที่ประชาชนมีการฉีดวัคซีนป้องกันน้อย และใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ในการแพร่ระบาดไปยังประเทศอื่นๆ แม้ว่าประชากรของประเทศนั้นจะได้รับการ "ฉีดวัคซีน" >70% ในทุกกลุ่มประชากร เพราะวัคซีนที่เราใช้ในปัจจุบันมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ได้ลดลงทุกที เช่น วัคซีน mRNA ที่กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูง แต่สามารถป้องกันการติดเชื้อจากโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 ได้เพียง 50%

 

จะสังเกตได้ว่าไวรัส โควิด กลายพันธุ์ล่าสุดคือ โอไมครอน สายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 มีต้นกำเนิดมาจากประเทศที่ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนน้อย เช่น Geuteng (BA.4)  และ KwaZulu-Natal (BA.5) ในประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งมีการกลายพันธุ์ต่างไปจากไวรัสดั้งเดิม "อู่ฮั่น" ถึง 90 และ 100 ตำแหน่งตามลำดับ ซึ่ง WHO คาดว่ามีความเป็นไปได้สูงว่า BA.5 อาจจะระบาดเข้ามาแทนที่ โอไมครอน สายพันธุ์ย่อย BA.2

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ