โควิด-19

"ยาสามัญประจำยุคโควิด" และไอเทมที่ควรติดบ้าน มีอะไรบ้าง รวบรวมมาให้แล้ว

"ยาสามัญประจำยุคโควิด" และไอเทมที่ควรติดบ้าน มีอะไรบ้าง รวบรวมมาให้แล้ว

11 เม.ย. 2565

เช็คเลย "ยาสามัญประจำยุคโควิด" พร้อมอุปกรณ์ที่ควรมีติดบ้านไว้ เพื่อรักษาอาการเบื้องต้น แนะปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ก่อนการใช้ยา

ในช่วงการแพร่ระบาด โรคโควิด นอกจากการรักษาที่ใช้ยาต้านไวรัสแล้ว มีหลายคำถามว่า หากติดเชื้อ ควรมีสิ่งใดไว้ในบ้านบ้าง ไม่ว่าจะเป็น ยาสามัญประจำบ้าน อุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ ซึ่งวันนี้ ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ "ยาสามัญประจำยุคโควิด" พร้อมสิ่งที่ควรมีติดบ้านมาไว้ให้ในนี้แล้ว

"ยาสามัญประจำยุคโควิด" ที่ต้องมี

- ยาลดไข้ พาราเซตามอล 
ทานเมื่อมีไข้ อุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 37 องศา หรือมีอาการปวดต่างๆ 

- ยาแก้แพ้
ทานเท่าที่จำเป็นและควรรับประทานเพียงวันละครั้ง เพราะออกฤทธิ์ได้นานเกือบ 24 ชั่วโมง

- ยาแก้ไอ
หากไอแบบมีเสมหะ ควรใช้ยาแก้ไอที่มีฤทธิ์ช่วยละลายเสมหะ หากไอแห้ง ควรใช้ยาประเภทกดอาการไอ

- ยาละลายเสมหะ 
ทานเมื่อมีอาการไอร่วมกับการมีเสมหะ และควรดื่มน้ำอุ่นมากๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ

- ยาลดน้ำมูก
ช่วยให้หายใจสะดวก อาจมีผลข้างเคียง เช่น น้ำมูก-คอ-ปากแห้ง ง่วงซึม ผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับและไตควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา

- ผงเกลือแร่ ORS
ผู้ที่มีอาการท้องเสียหรืออาเจียนสามารถทานได้ โดยผสมน้ำสะอาดและสามารถจิบได้เรื่อยๆ ทั้งวัน

- ยาฟ้าทะลายโจร
ยาสมุนไพรใช้บรรเทาอาการไข้หวัดและเจ็บคอ
ข้อควรระวัง คือ ต้องเลือกที่ปลอดภัยและผ่านการรับรองจาก อย. ไม่ควรทานเกินวันละ 180 มิลลิกรัม ติดต่อกันเกิน 5 วัน และ ไม่ควรทานร่วมกันยาที่มีฤทธิ์ลดการแข็งตัวของเลือด

- ยาอื่นๆ 
เช่น ยาธาตุน้ำแดง ยาธาตุน้ำขาว ยาแก้ไอน้ำดำ ยาหม่อง ยาดม แผ่นเจลลดไข้ น้ำเกลือสำหรับกลั้วคอและล้างแผล เป็นต้น

- ยาประจำตัว
ควรมียาประจำตัวสำรองไว้ 1-2 เดือน เพื่อลดการเดินทาง และเผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉิน

 

อุปกรณ์ที่ต้องมี

- ปรอทวัดไข้
หากอุณหภูมิที่สูงกว่า 37.8 องศาเซลเซียส     ถือว่ามีไข้

- เครื่องวัดระดับออกซิเจนปลายนิ้ว
หากค่าออกซิเจนต่ำกว่า 95% ควรรีบติดต่อแพทย์

- ชุดตรวจโควิด

- หน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ

กลุ่มยานี้สามารถซื้อไว้ติดบ้านเพื่อรักษาอาการในเบื้องต้น 

 

หากท่านมีอาการคล้ายโควิด-19 หรือเป็นกลุ่มเสี่ยง ควรตรวจให้แน่ใจว่าติดเชื้อโควิดหรือไม่ เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ยาทุกชนิดอาจมีผลข้างเคียง และอาจมีอันตรายหากใช้ไม่ถูกต้องเหมาะสม

แนะนำให้ปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ก่อนการใช้ยา

 

ที่มา : สำนักงานประกันสังคม