โควิด-19

"โอไมครอน" BA.2 ครองระบาด ทำยอดติดเชื้อโควิดพุ่ง "หมอธีระ" แนะเข้มสงกรานต์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หมอธีระ เผยยอดผู้ติดเชื้อ "โควิด" ทั่วโลกยังพุ่งต่อเนื่อง พบ "โอไมครอน" BA.2 ครองการระบาด ขณะไทยยังคุมไม่ได้ พร้อมคำแนะนำดูแลตัวเองช่วงสงกรานต์

"หมอธีระ" รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟสบุ๊ค Thira Woratanarat ถึงภาพรวมจำนวนยอดผู้ติดเฃื้อ "โควิด" เมื่อวานนี้ ทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 1,183,978 คน ตายเพิ่ม 3,314 คน รวมแล้วติดไปรวม 494,999,056 คน เสียชีวิตรวม 6,190,368 คนโดย 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เกาหลีใต้ เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี และออสเตรเลีย

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลกจำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 87.33 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 76.73 การติดเชื้อใหม่ในทวีปเอเชียนั้นคิดเป็นร้อยละ 38.72 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 28.45

 

สำหรับการระบาดของไทยเมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่ รวม ATK สูงเป็นอันดับ 6 ของโลก และอันดับ 2 ของเอเชียในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 10 ของโลก

 

จากรายงานล่าสุดขององค์การอนามัยโลก WHO Weekly Epidemiological Update วันที่ 5 เมษายน 2565 สถิติจำนวนติดเชื้อใหม่รายสัปดาห์ล่าสุดของทั่วโลกนั้นลดลงกว่าสัปดาห์ก่อน 16% และจำนวนเสียชีวิตลดลง 43% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า แต่หากดูข้อมูลของไทยรายสัปดาห์จาก Worldometer พบว่า จำนวนติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 3% (ยังไม่ได้รวม ATK) และจำนวนเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 19%

WHO รายงานว่า ล่าสุดยังคงเป็นสายพันธุ์ "โอไมครอน" ครองการระบาดทั่วโลก 99.8% โดยพบว่าเป็นสายพันธุ์ย่อย BA.2 ที่ครองสัดส่วนการระบาดหลัก มากถึง 93.6% ส่วนสายพันธุ์ย่อยอื่นนั้นน้อยลงมาก เช่น BA.1.1 มีเพียง 4.8% ทั้งนี้ BA.1 และ BA.3 มีน้อยกว่า 0.1% เรื่องที่หลายคนสนใจเกี่ยวกับสายพันธุ์ผสม หรือ recombinant นั้น ขณะนี้มีการติดตามอยู่หลายตัว เช่น

- XD (พันธุ์ผสมระหว่างเดลต้า AY.4 และ "โอไมครอน" BA.1) ดูจะมีการแพร่ค่อนข้างจำกัดและสมรรถนะในการแพร่นั้นไม่ได้มากไปกว่าสายพันธุ์ที่มีการระบาดอยู่เดิม

- XE (พันธุ์ผสมระหว่าง "โอไมครอน" BA.1 และ BA.2) พบครั้งแรกที่สหราชอาณาจักรวันที่ 19 มกราคม 2565 ก็กำลังมีการติดตามประเมินอยู่ โดยข้อมูลปัจจุบันชี้ว่ามีสมรรถนะในการแพร่มากกว่า BA.2 ราว 10% แต่ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยัน

 

สำหรับไทยเรานั้น การระบาดเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ยังคุมไม่อยู่ คำแนะนำสำหรับสงกรานต์ที่จะมาถึงในสัปดาห์หน้า

1. ควรฉลองสงกรานต์อยู๋กับบ้าน ไม่ตะลอนท่องเที่ยว ไม่ร่วมกิจกรรมรดน้ำสาดน้ำประแป้งนอกบ้าน

2. หากจำเป็นต้องเดินทางกลับไปต่างจังหวัด หรือไปหาญาติพี่น้องที่อยู่ต่างบ้านกัน ควรดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้

- เก็บเนื้อเก็บตัว ไม่ตะลอน ก่อนออกเดินทางอย่างน้อย 3-5 วัน
- ก่อนเดินทางสัก 1-2 วัน ควรโทร ถามสารทุกข์สุกดิบ กับคนที่อยู่ปลายทางว่าทุกคนสบายดี ไม่มีอาการเจ็บป่วย และประะเมินตนเองด้วย หากมีใครมีอาการไม่สบายใดๆ แม้เล็กน้อย ก็ควรงดเดินทางไปพบปะกัน
- วันเดินทาง ควรตรวจ ATK ตนเอง หากเป็นผลบวก ก็หยุดแผนเดินทาง 
- ออกนอกบ้านควรใส่หน้ากากเสมอ เดินทางตามแผนที่กำหนด ไม่เฉไฉตะลอนหลายที่ เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและนำไปแพร่ให้คนที่ปลายทาง
- การไปกราบสวัสดีผู้หลักผู้ใหญ่ พ่อแม่ปู่ย่าตายายนั้น ควรเว้นระยะห่างก็จะปลอดภัยกว่า แต่หากจะไปกอดหรือคลุกคลีใกล้ชิด ถ้าใส่หน้ากากได้จะดีกว่า และอย่าลืมล้างมือให้สะอาดก่อนไปสัมผัสกัน
- การกินข้าวสังสรรค์กันในหมู่สมาชิกในครอบครัวนั้น ควรนั่งห่างกันกว่าปกติ และเลือกนั่งกินดื่มในที่โล่ง ระบายอากาศดี
- หลังเสร็จกิจกรรมวันหยุดยาว ควรสังเกตอาการผิดปกติ และควรตรวจ ATK อีกครั้งหลังกลับมา
- ในกรณีของคนที่กลับมาจากการเดินทาง แต่มีสมาชิกในบ้านที่ไม่ได้เดินทางไปด้วย หากแยกจากกัน ไม่สุงสิงกันในช่วง 3-5 วันหลังกลับมาก็จะปลอดภัยกว่า

 

การติดเชื้อโรคโควิด-19 นั้น ไม่ได้จบแค่เป็น รักษา แล้วหาย แต่มีโอกาสเกิดปัญหาระยะยาวอย่าง Long COVID ที่จะบั่นทอนสมรรถนะในการดำรงชีวิตและการทำงาน และส่งผลให้เกิดภาวะทุพลภาพหรือโรคเรื้อรังได้ และที่สำคัญคือ โควิด...ติด...ไม่ใช่แค่คุณ บางคนติดแล้วไม่มีอาการหรืออาการน้อย แต่บางคนติดแล้วป่วยรุนแรงหรือตายได้ ดังที่เห็นจากสถิติรายวัน ขอให้ปลอดภัยไปด้วยกันทุกคน

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ