โควิด-19

กรมควบคุมโรค แถลงปัดคุมยอด "ATK" ชี้เหตุ ยอดไม่ตรงเกิดจากคีร์ข้อมูลไม่ทัน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กรมควบคุมโรค แถลงแจงดราม่า ปัดคุมยอด "ATK" ชี้ ยอดไม่ตรงเกิดจากโรงพยาบาล-แล็บ คีร์ข้อมูลไม่ทัน เพราะเคสเยอะ

(1 เม.ย. 2565) นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงข่าวกรณี "การรายงานผู้ป่วยเข้าข่ายติดเชื้อโควิด ด้วยการตรวจ ATK" หลังจากมีข้อสงสัยการคุมตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดจากการตรวจ "ATK" เนื่องจากยอดในระบบ Dashboard และตัวเลข รายงานจังหวัดไม่ตรงกัน ว่า 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข้อมูล "ATK" ที่รายงานในแต่ละวัน จะมีการรวบรวมข้อมูลจากหลายแห่ง จากจังหวัดต่าง ๆ เป็นข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยง เพศ อายุ รายวัน ส่วนอีกข้อมูลคือผู้ป่วยอาการ ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ ปอดอักเสบ เสียชีวิต 

 

1. ข้อมูลผู้ติดเชื้อที่ตรวจด้วยวิธี RT-PCR รายวันจากจังหวัด

2. โปรแกรม Co-Ward ในส่วนของผู้ป่วยอาการหนัก ปอดอักเสบ ใส่ท่อช่วยหายใจ ที่นอนในโรงพยาบาล ซึ่งสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ดึงข้อมูลมาจากโรงพยาบาลจากทุกจังหวัดส่งมาที่ส่วนกลาง และรายงานใน Dashboard

3. การเสียชีวิต รายงานจากจังหวัดและเขตสุขภาพ คือ สำนักงานป้องกันและควบคุมโรค (สคร.) เข้ามาส่วนกลาง จากนั้นจะตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิต
ว่ามาจากโควิดหรือไม่ เพราะหลายรายไม่ได้เสียชีวิตจากโควิด เช่น รถชนเสียชีวิต แต่มีผลติดโควิด หากยังตรวจสอบไม่ได้จะหาข้อมูลเพิ่ม และให้ผู้เชี่ยวชาญร่วมตรวจสอบก็จะรายงานในวันถัดไป

4.การติดเชื้อจากการตรวจ "ATK" จะดึงข้อมูลมาจาก Co-Lab ซึ่งทุกโรงพยาบาล และห้องแล็บทั้งหมดในประเทศไทย ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะต้องใส่ข้อมูลเข้ามา ก็จะถูกดึงเข้ามาใน Dashboard

 

 

กรมควบคุมโรค แถลงปัดคุมยอด "ATK" ชี้เหตุ ยอดไม่ตรงเกิดจากคีร์ข้อมูลไม่ทัน

ส่วนกรณียอด "ATK" ใน Dashboard กับจังหวัดไม่ตรงกัน นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า แต่ละจังหวัดจะส่งข้อมูลเข้ามา Co-Lab แต่มีปัจจัยที่ทำให้ไม่ตรงกัน คือ การคีย์ข้อมูลจำนวนมากหลายหมื่นเคสต่อวัน เป็นภาระงานเยอะมากสำหรับเจ้าหน้าที่ อาจมีตกหล่นหรือไม่ ต้องเช็กดูรายจังหวัด หรืออาจไม่มั่นใจว่าเคสนี้ควรรายงานหรือไม่ อาจจะไม่ได้รายงานเข้ามา หรือคีย์ข้อมูลเข้ามาไม่ทัน จึงยกยอดเป็นวันพรุ่งนี้แทน ซึ่งก่อนหน้านี้จะเห็นข้อมูล ATK ค่อนข้างสวิง บางวันขึ้นสูง บางวันลงต่ำ ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการคีย์ข้อมูลไม่ทัน แล้วคีย์วันรุ่งขึ้น

 

 

นอกจากนั้น อาจมีการตรวจ ATK แล้วทำการรักษาแบบผู้ป่วยนอก OPSI หรือ HI ที่ไม่ได้นอนโรงพยาบาล ก็อาจมีข้อมูลที่เก็บไม่ทัน อาจไม่ได้รายงานเข้ามา แต่มีการนับยอดไว้ ซึ่งไม่แน่ใจว่าไปรวบรวมจากตัวเลขนั้นหรือไม่ และ การตัดยอดรายวัน ขึ้นกับว่าตัดช่วงไหน หากตัดห่างออกไปอาจมีตัวเลขเพิ่มขึ้น 

 

กรมควบคุมโรค แถลงปัดคุมยอด "ATK" ชี้เหตุ ยอดไม่ตรงเกิดจากคีร์ข้อมูลไม่ทัน


"ส่วนโรงพยาบาลรายงานเข้ามาแล้วกรมควบคุมโรคคุมตัวเลขไหม เราไม่ได้โฟกัสแล้วสำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อมากน้อยแค่ไหน เพราะโอกาสการแพร่ค่อนข้างมาก และโอมิครอนแพร่เร็ว แต่อาการไม่หนัก เพราะฉีดวัคซีนมากพอสมควรแล้ว อยากเรียนว่า จำนวนผู้ติดเชื้อเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยรีเช็กเรื่องแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น ผู้ติดเชื้อเราเน้นแนวโน้มเป็นหลัก วันนี้ ATK ไม่เยอะ พรุ่งนี้อาจเยอะก็ได้ หลายครั้งวันนี้น้อยอีก 2-3 วัน อาจจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเก็บข้อมูลคีย์ไม่ทันก็เป็นไปได้ เพราะฉะนั้นเราดูแนวโน้มเป็นหลัก คือ ดูค่าเฉลี่ย 7 วัน 14 วัน ว่าเป็นอย่างไร"

 

 

นพ.จักรรัฐ ยืนยันว่า ไม่เคยจะปกปิดตัวเลขของผู้ติดเชื้อ เพราะจะเป็นตัวช่วยให้เห็นแนวโน้มสำคัญ แม้การเสนอตัวเลขประจำวันจะเป็นรูปแบบ RT-PCR เพื่อยืนยันตามรูปแบบของนานาชาติ ที่ใช้เคสยืนยันเป็นหลัก ตอนนี้สิ่งที่เรากังวลคือการติดเชื้อมากขึ้นช่วงสงกรานต์ จะทำให้มีปอดอักเสบ ใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นตามมาด้วย เรายังไม่มีมาตรการปิดสถานที่ หรืองดสงกรานต์ ศบค.เห็นด้วยจัดสงกรานต์ภายใต้การควบคุมพอสมควร ประชาชนร่วมมือกันไม่ให้แพร่ไปครอบครัวตัวเอง ญาติผู้ใหญ่เรา จะได้ไม่ติดเชื้อ


"สิ่งที่ผมอยากเห็นไม่ใช่จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันด้วย ATK หรือ RT-PCR แต่อยากเห็นแต่ละจังหวัดมีการวิเคราะห์ข้อมูลว่า ตรงนี้มีจุดเสี่ยง ต้องควบคุมโรคป้องกันให้ได้ก่อนสงกรานต์ จะได้ไม่เกิดการแพร่มากขึ้น บางจังหวัดก็เห็นแล้วว่าบางสถานที่เป็นจุดเสี่ยง เช่น ร้านอาหารกึ่งผับ ตอนนี้เปิดรอรับสงกรานต์หลายที่ อาจมีเคสเพิ่มขึ้นได้ หากไปทานข้าวดื่มเหล้าเป็นเวลานาน"

 

 

นพ.จักรรัฐ กล่าวต่อว่า ส่วน ATK จะเห็นภาพแต่ละจังหวัดว่าจะเอาไปวิเคราะห์หรือควบคุมโรคบางส่วน เช่น หากเห็น ATK เพิ่มขึ้น หากวิเคราะห์ข้อมูลได้ คนกลุ่มนี้มาจากการติดเชื้อโซนไหน สถานที่เสี่ยงตรงไหน สำคัญกว่าตัวเลขการติดเชื้อด้วยซ้ำ เช่น อาจจะเกิดคลัสเตอร์แบบนี้ จะได้เตรียมการป้องกัน


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ