ป่วยที่ไตเกี่ยวอะไรกับ "โควิด" คำถามยอดฮิต "โรคไต" สัมพันธ์กันแค่ไหนกับ covid-19 เช็คให้ชัด ลดยอดป่วย ตายได้
จากสถานการณ์การระบาดระลอกใหม่ของ "โควิด" ที่ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมทั้งในขณะนี้โควิด-19 สายพันธุ์ "โอไมครอน" ทำให้มีการแพร่กระจายที่ง่ายขึ้นมากกว่าปกติ ซึ่งผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น "โรคไต" ยังเป็นกลุ่มที่ติดเชื้อ และมีแนวโน้มเสียชีวิตสูงสุด
แต่ก็มีคำถามว่า แล้วทำไม ป่วยที่ไตเกี่ยวอะไรกับโรคโควิด "คมชัดลึกออนไลน์" รวบรวมคำตอบมาให้
นพ.สกานต์ บุนนาค แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคไต ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กล่าวว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วย "โรคไตเรื้อรัง" จำนวนมาก ประมาณ 20 ล้านคน มีตั้งแต่ระยะที่ 1 ถึงระยะที่ 5 คือระยะหลังสุด
ป่วยที่ไต และเกี่ยวอะไรกับโรคโควิด?
คน "โรคไต" เวลาที่ไตวายไปแล้ว ก็จะมีของเสียคั่งเยอะในร่างกาย ของเสียพวกนี้ทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายแย่ลงติดเชื้อง่าย และรุนแรงกว่าคนอื่น เพราะฉะนั้นมันลุกลามลงปอดได้ง่ายกว่า รวมทั้ง คนโรคไตมีภาวะที่เรียกว่า "น้ำเกิน" จากการที่ไตวาย แล้วขับน้ำไม่ออก น้ำก็จะไปเกินอยู่ในร่างกาย รวมทั้งในปอด ทำให้ปอดแฉะ ติดเชื้อได้ง่าย ยิ่งทำให้อาการหนักกว่าคนอื่น
นอกจากนั้น คนไข้ "โรคไต" ก็จะมีโรคอื่นที่เป็นพี่น้องกัน เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เวลาติดเชื้อก็จะมีโรคโควิดที่รุนแรง สิ่งสำคัญที่ต้องรีบคือ ฉีดวัคซีน ตั้งแต่เข็มแรก แล้วก็เข็ม 2 ตามกำหนด และถ้าฉีดเข็ม 2 นานกว่า 3 เดือน ต้องฉีดเข็ม 3 แล้ว
ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน
พบว่า ผลข้างเคียงไม่มากกว่าคนทั่วไป ดังนั้น วัคซีนไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ตาม โดยสรุปแล้วสามารถใช้ได้กับคนที่ป่วย "โรคไต" ทั้งนั้น มีนิดเดียวที่จะต้องระวังคือ ในวันที่ฟอกเลือด จะมีการให้สารป้องกันการแข็งตัวของเลือด เพื่อว่าจะนำเลือดออกมาฟอก
ได้ง่าย ถ้าจะฉีดวัคซีนก็ขอให้เลี่ยงวันฟอกเลือก
นพ.อนุตตร จิตตินันท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคไต ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า จริง ๆ แล้วคนไข้ "โรคไต" มีความเสี่ยงในการเกิดโรครุนแรง มันจะเพิ่มขึ้นถ้าไตแย่ลง เป็นระยะแรก ๆ ความเสี่ยงก็จะไม่มากนัก พอไตเสื่อมไปเยอะ ๆ การทำงานของไตลดลง ความเสี่ยงต่อการรุนแรงของโรคก็จะเพิ่มขึ้น
โดยสรุป ในช่วง "โควิด" ผู้ป่วย "โรคไต" ควรอยู่บ้าน เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่จะติดโควิด-19 รับประทานยา อาหาร น้ำดื่ม ตามที่แพทย์แนะนำ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอหากมีความจำเป็นต้องออกจากบ้าน ให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ และที่สำคัญ ควรฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อลดโอกาสติดเชื้อ และลดโอกาสการเสียชีวิต
ขอบคุณข้อมูล สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง