โควิด-19

"โอไมครอน" BA.2.2 ฟักตัวกี่วัน เปิดข้อมูล ความรุนแรง และแพร่เร็วแค่ไหน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เช็คเลย "โอไมครอน" BA.2.2 ฟักตัวกี่วัน เปิดข้อมูล ความรุนแรง และแพร่เร็วแค่ไหน หลังยอดตายในฮ่องกงพุ่ง เจอในไทยแล้ว 4 ราย

จากกรณีที่ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงว่า ขณะนี้ ประเทศไทย ได้ตรวจพบกลุ่มตัวอย่างเข้าข่ายติดเชื้อโควิด "โอไมครอน" หรือ "โอมิครอน" สายพันธุ์ย่อย "BA.2.2" จำนวน 4 ราย ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ 1 ราย และคนไทย 3 ราย ทั้งหมด อาการไม่รุนแรง และตอนนี้หายป่วยแล้ว ทำให้ขณะนี้เกิดกระแสกังวลว่า โควิด-19 โอมิครอนสายพันธุ์ใหม่ "BA.2.2" ซึ่งระบาดในหลายประเทศ/ดินแดน รวมถึงฮ่องกงในช่วงนี้ อาจเป็นภัยร้ายในอนาคตหรือไม่ "คมชัดลึกออนไลน์" ได้รวบรวมรายละเอียด ทำความรู้จักกับโควิดสายพันธุ์นี้

 

 

"โอไมครอน" BA.2.2 ฟักตัวกี่วัน เปิดข้อมูล ความรุนแรง และแพร่เร็วแค่ไหน

ทั้งนี้ "โอไมครอน" สายพันธุ์ย่อย BA.2.2 มีการกลายพันธ์ที่ตำแหน่งสไปก์โปรตีน I1221T โดยพบหลัก ๆ ในฮ่องกง การระบาดระลอกใหม่นี้ ทำให้มีอัตราผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในฮ่องกงพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดในโลก โดยมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยในรอบ 7 วันอยู่ที่ 30 คนต่อประชากร 1 ล้านคน

 

ข้อมูลจาก GISAID ที่เป็นฐานข้อมูลเชื้อก่อโรคโควิด-19 ของโลก พบว่า ณ วันที่ 13 มี.ค.2565 โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.1 ยังเป็นสายพันธุ์ที่ระบาดหลักทั่วโลก ส่วน BA.2 ขณะนี้มีรายงานสายพันธุ์ย่อยแล้ว 3 สายพันธุ์ คือ

 

  • BA.2.1 จำนวน 532 ราย
  • BA.2.2 จำนวน 68 ราย
  • BA.2.3 จำนวน 1,938 ราย 

 

"โอไมครอน" BA.2.2 ฟักตัวกี่วัน เปิดข้อมูล ความรุนแรง และแพร่เร็วแค่ไหน

 

อย่างไรก็ตาม "โอไมครอน" สายพันธุ์ย่อย BA.2.2 ปัจจุบัน ฮ่องกงพบ 386 ราย และอังกฤษ 289 ราย และประเทศไทย 4 ราย ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยที่มาจากคนละสาย จำเป็นจะต้องมีการติดตามต่อไป แต่จากการประเมินเบื้องต้น ณ วันที่ 13 มี.ค. 2565 ใน 4 เรื่อง ดังนี้

  1. ความสามารถในการแพร่ (transmission) จากข้อมูลทางระบาดวิทยาไม่มีข้อมูลว่าแพร่เชื้อได้รวดเร็วกว่าสายพันธุ์อื่น
  2. ความรุนแรงของโรค ไม่มีข้อมูลว่าอัตราป่วยและอัตราเสียชีวิตสูงกว่าพันธุ์อื่น ๆ ไม่มีข้อมูลทางระบาดวิทยามาสนับสนุนว่าผู้ป่วยที่ติดเชื้อโอมิครอนที่มีการกลายพันธ์ สไปก์โปรตีน I1221T มีอาการรุนแรงกว่าสายพันธุ์โอมิครอนอื่น ๆ
  3. ผลต่อประสิทธิภาพของวัคซีน ไม่มีข้อมูลว่ามีผลให้ประสิทธิภาพวัคซีนลดลง หรือหลีกหนีวัคซีนได้มากกว่าสายพันธุ์โอมิครอนอื่น ๆ
  4. ระยะฟักตัวและระยะเวลากักตัว เนื่องจากไม่มีข้อมูลแต่การกลายพันธุ์นี้ไม่ควรส่งผลต่อการฟักตัวหรือระยะแพร่เชื้อของสายพันธุ์นี้

 

 

โดยขณะนี้นักวิทยาศาสตร์ฮ่องกงและทั่วโลกกำลังประมวลผลรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของ BA.2.2 กับข้อมูลทางคลินิกเพื่อตอบปัญหาสำคัญ 6 ประการ

 

 

  1. BA.2.2 กลายพันธุ์ไปมากกว่า BA.2 หรือไม่ และตำแหน่งใดบ้างโดยเฉพาะในส่วนยีนที่ควบคุมโครงสร้างของหนามที่เปลือกของอนุภาคไวรัส
  2. BA.2.2 แพร่ระบาด (transmissibility) รวดเร็วกว่า BA.2 หรือไม่
  3. BA.2.2 ก่อให้เกิดอาการของโรคโควิดได้รุนแรง (severity) กว่า BA.2 หรือสายพันธุ์ที่น่ากังวลใจ (variants of concern) อื่น ๆ เช่น อัลฟา เบตา แกมมา เดลตา หรือไม่
  4. BA.2.2 สามารถด้อยประสิทธิภาพของวัคซีนลงมากกว่า BA.2 หรือไม่
  5. ยารักษาโมโนโคลนอลแอนติบอดีตัวใหม่ "โซโทรวิแมบ" (Sotrovimab) ที่ใช้ต่อต้านโอมิครอน ยังสามารถจับกับ BA.2.2 ได้อยู่หรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้าสู่เซลล์ของระบบทางเดินหายใจ  
  6. ใช่หรือไม่ ที่ BA.2.2 เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มีอัตราผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในฮ่องกงทำสถิติสูงสุดในโลก 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ