เช็คด่วนเจอ "อาการติดโควิด" ในเด็ก 2 แบบ ต้องทำยังไงก่อนสายไปทำลูกป่วยหนัก
เช็คด่วน "อาการติดโควิด" ในเด็กเจออาการ 2 แบบนี้ต้องทำยังไง อาการลักษณะไหนเข้าข่ายป่วยหนัก แนะผู้ปกครองสังเกตอาการอย่างวันละ 2 ครั้ง
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ในขณะนี้พบมี "อาการติดโควิด" ในเด็กช่วงอายุ 0-5 ปี ติดเชื้อรวมกว่า 107,059 ราย โดยแบ่งเป็น ช่วงอายุ0-2 ปี จำนวน 24,742 ราย ช่วงอายุ 2 ปี จำนวน 21,237 ราย อายุ 3 ปี จำนวน 20,525ราย อายุ 4 ปี จำนวน 20,373 ราย อายุ 5 ปี 20,181 ราย มีเสียชีวิต จำนวน 29 ราย พบเป็นกลุ่มเด็กมีโรคประจำตัว
ล่าสุดศูนย์ข้อมูล COVID-19 แนะนำวิธีสังเกต "อาการติดโควิด" ในเด็กเบื้องต้นที่ผู้ปกครองจำเป็นต้องรู้ว่า "อาการติดโควิด" ระดับใดจะต้องปฏิบัติอย่างไร โดยมีรายละเอียดดังนี้
- อาการแบบที่ 1 เฝ้าสังเกตที่บ้าน
คือ มีไข้ต่ำไอเล็กน้อย
ถ่ายเหลว กินอาหารหรือนมได้ปกติ
- อาการแบบที่ 2 ติดต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อนำส่งโรงพยาบาล
คือ มีไข้สูงกว่า 39 °C หายใจหอบเร็วปากเขียว
ระดับออกซิเจนปลายนิ้วน้อยกว่า 94 %
ไม่ดูดนม และไม่กินอาหาร
ผู้ปกครอง คอยสังเกตอาการ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
สำหรับ "อาการติดโควิด" ในเด็กเบื้องต้นส่วนใหญ่มักจะพบอาการ 2 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มอาการระดับน้อย มีไข้ต่ำ มีน้ำมูก ไอเล็กน้อย ไม่มีอาการเหนื่อยหอบ ถ่ายเหลว ยังคงกินอาหาร กินนมได้ปกติไม่ซึม ในกลุ่มนี้สามารถรับยา รักษาตามอาการซึ่งสามารถเข้าระบบรักษาตัวที่บ้านได้
กลุ่มอาการปานกลางถึงรุนแรง คือกลุ่มที่มีอาการป่วย มีไข้สูงกว่า 39 องศาฯ หายใจเหนื่อยหอบ หรือหายใจเร็วกว่าปกติใช้แรงในการหายใจ ปากเขียว ระดับออกซิเจนปลายนิ้วน้อยกว่า 94% ซึมลง และไม่กินอาหาร ไม่กินนม ในกลุ่มนี้ต้องรีบเข้าพบแพทย์ทันที
ทั้งนี้พบ "อาการติดโควิด" ของเด็กที่ติดเชื้อโควิคที่พบมากที่สุด คือ มีไข้หลายวัน อาจจะมีไข้สูงหรือต่ำ ไอแห้งเจ็บคอ อ่อนเพลียคัดจมูก ซึ่งในกลุ่มนี้อาการจะคล้ายไข้หวัด นอกจากนั้นยังพบเด็กบางรายมีอาการผื่นแดง จมูกไม่ได้กลิ่นเบื่ออาหาร ในเด็กทารก อาจดื่มนมน้อยลง อาจมีอาการท้องเสียร่วมด้วย