โควิด-19

"โควิด" อย่างเก่งทำได้แค่ยื้อเวลาติดเชื้อ หมอนูญแนะหันมาลดป่วยหนัก-ตาย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"โควิด" ในไทยหมอมนูญแนะอย่างเก่งทำได้แค่ชะลอเวลาติดเชื้อ ควรหันมาลดป่วยหนัก เสียชีวิต มากกว่าลดจำนวนผู้ติดเชื้อ วัคซีนตัวช่วยสำคัญ

นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หรือ "หมอมนูญ" หัวหน้าโรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC" ถึงสถานการณ์การระบาดของ "โควิด" ในประเทศไทยที่ขณะนี้ที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยระบุ ว่า 

 

ประเทศไทยควรเปลี่ยนเป้าหมายจากการลดจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือ "โควิด" เป็นการลดจำนวนผู้ป่วยหนักและเสียชีวิตหลังการติดเชื้อ  การป้องกันการติดเชื้อทำได้ยาก เพราะเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน BA.1 และ BA.2 ติดกันง่ายมาก แพร่ทางอากาศ อย่างเก่งทำได้แค่ชะลอเวลาติดเชื้อออกไปสักพัก เพื่อใช้เวลานี้รีบฉีดวัคซีนให้กับคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว และฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้กับคนที่ได้รับวัคซีน 2 เข็มแล้ว

นพ.มนูญ ระบุ เพิ่มเติมว่า วัคซีน "โควิด" ช่วยลดความรุนแรง ป่วยหนักและเสียชีวิตได้มากกว่าร้อยละ 90 ในขณะนี้ประเทศไทยมีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงทั้งแอสตร้าเซเนก้าและไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา เพียงพอสำหรับคนในประเทศทุกคน แต่มีคนจำนวนมากยังกลัวผลข้างเคียงของวัคซีน และปฏิเสธการฉีดวัคซีน รัฐบาลต้องสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจ อย่างน้อยร้อยละ 90 ของกลุ่มคนสูงอายุ คนที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง 7 โรค และหญิงตั้งครรภ์ ให้ได้รับวัคซีน 2 เข็ม และอย่างน้อยร้อยละ 60 ของกลุ่มเสี่ยงนี้ได้รับการฉีดเข็มกระตุ้นเป็นเข็มที่ 3 

อย่างไรก็ตาม วัคซีนเป็นการลงทุนที่ได้ผล และคุ้มค่าที่สุดในการลดการป่วยหนักและเสียชีวิตจากโรค  "โควิด" 

 

สำหรับคนกลุ่มเสี่ยงทึ่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือยังฉีดไม่ครบ กลุ่มนี้ควรจะได้รับยาต้านไวรัสชนิดกิน Paxlovid ไม่ใช่ยาฟาวิพิราเวียร์ รีบให้ทันทีภายใน 5 วันที่เริ่มมีอาการ จะสามารถลดการป่วยหนักและเสียชีวิตได้ร้อยละ 90  ปัญหาคือยานี้ยังไม่เข้าประเทศไทย ต้องรออย่างน้อยอีก 2-3 เดือนข้างหน้ากว่าบริษัทยาจะผลิตยาได้มากเพียงพอสำหรับความต้องการของทุกประเทศ

logoline