"ศบค." ยันยังไม่ประกาศล็อกดาวน์แม้ตัวเลขผู้ป่วยโควิดรายวันพุ่งสูง

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  "ศบค."  แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า วันนี้ (21 ก.พ. 65) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 18,883 ราย ติดเชื้อในประเทศ 18,704 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 18,618 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 86 ราย มาจากเรือนจำ 17 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 162 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 14,914 ราย อยู่ระหว่างรักษา 166,397 ราย อาการหนัก 796 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 202 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 32 ราย เป็นชาย 13 ราย หญิง 19 ราย อายุ 60 ปีขึ้นไป 25 ราย มีโรคเรื้อรัง 7 ราย  

ขณะนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,731,198 ราย มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,542,145 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 22,656 ราย ส่วนยอดฉีดวัคซีนวันที่ 20 ก.พ. 2565 141,661 โดส ยอดฉีดสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.  2564 จำนวน 121,725,326 โดส ขณะที่สถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 424,990,285 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 5,906,093 ราย 

พญ.อภิสมัย กล่าวต่อว่า จากกรณีที่มีกระแสออกไปว่าในการประชุม "ศบค." ชุดใหญ่ในวันพุธที่ 23 ก.พ นี้ อาจจะพิจารณาล็อกดาวน์ และยกเลิกระบบ "Test&Go"  ว่า   ในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ไม่ได้พูดถึงเรื่องการล็อกดาวน์  รวมไปถึงการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ คงไม่ได้พิจารณาและประเมินแค่ยอดติดเชื้อใหม่ ยอดผู้ป่วยหนัก หรือยอดผู้เสียชีวิตเท่านั้น แต่จะพิจารณาอย่างรอบด้าน ทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และความเป็นอยู่ของประชาชน  อย่างไรก็ตามเข้าใจว่าในบางครั้งประชาชนจะมีความกังวล โดยเฉพาะการบริโภคข้อมูลจากนักวิชาการ อาจารย์ และผู้เชี่ยวชาญซึ่งอาจจะทำให้เกิดความวิตกว่าจะมีการล็อกดาวน์หรือไม่ โดยตนต้องยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีทิศทางที่จะประกาศล็อกดาวน์  ดังนั้นจึงอยากจะขอความร่วมมือจากนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญว่า ในตอนที่ให้ความเห็นขอให้ระบุด้วยว่าเป็นความเห็นส่วนตัวของตัวเอง เพื่อไม่ให้ประชาชนและผู้ประกอบการเกิดความกังวล 

ส่วนระบบ "Test&Go" ที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าจะระงับการเดินทางเข้าประเทศ จากข้อมูลพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านระบบ Test&Go นับตั้งแต่วันที่ 1-20 กุมภาพันธ์ 2565 มีผู้เดินทางเข้าประเทศมา จำนวน 137,090 คน พบรายงานติดเชื้อ 3,495 ราย คิดเป็นร้อยละ 2.55 คือใน 100 คน ซึ่งถือว่าระบบสาธารณสุขและมาตรการที่ใช้อยู่ยังสามารถรองรับได้ แม้ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศแถบยุโรปที่มีการผ่อนคลายมาตรการแล้วแต่ เมื่อเดินทางเข้ามาในประเทศไทยก็ยังคงต้องทำตามมาตรการของสาธารณสุขไทยอยู่