ผวา "คลัสเตอร์" เป็กเหล้าขาวแก้วเดียวกันกลายเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ในจ.ชัยภูมิ

สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2565 ที่ผ่านมากว่า 1 เดือน วันนี้ถือเป็นการทำยอดพบผู้ป่วยโควิด-19 ทำผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุดตั้งแต่พบมีการแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ รวมทั้งการเจอ "คลัสเตอร์" ใหม่ที่ส่งผลให้โควิดแพร่กระจาย พบผู้ป่วยรายวันเพียงวันเดียวรวมกว่า 353 คน ป่วยในจังหวัดสูงสุดรวม 288 คน ในจังหวัด 270 คน นอกจังหวัด 18 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน เสียชีวิตสะสม 143 คน กระจายอยู่ในพื้นที่ทั่วทั้งจังหวัดชัยภูมิ ส่งผลทำให้ จ.ชัยภูมิ มีผู้ป่วยทั้งจังหวัดสะสมแล้ว 16,669 คน เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน เสียชีวิตสะสม 143 คน รักษาอยู่ 1,704 คน กลับบ้านเพิ่มวันนี้ 106 คน หายป่วยสะสม 14,822 คน

อย่างไรก็ตามพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิด "คลัสเตอร์" ใหม่ๆ  คือกรณีดื่มเหล้าแก้วเดียวกัน หรือแก้วเป๊กเหล้าขาว ที่พบนั้นมีการแพร่เชื้อลงไปสู่ชุมชน หมู่บ้านในหลายพื้นที่เพิ่มสูงสุดทำตัวเลขผู้ติดเชื้อสูง และยังมีการนำเชื้อเข้าบ้านไปสู่ญาติพี่น้อง รวมทั้งไปติดเด็กนักเรียนในอีกหลายสถานศึกษาที่พบมีเด็กติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นและมีการสั่งปิดโรงเรียนงดเรียนแบบออนไซต์ และต้องหันมาใช้การเรียนออนไลน์แทนกันมากแล้วในโรงเรียนหลายพื้นที่ และจุดที่น่าห่วงคือเสี่ยงที่จะลามเป็นคลัสเตอร์ฟันน้ำนม ลงไปสู่เด็กนักเรียนในระดับอนุบาลเป็นจำนวนมากขึ้นตามาอีกเป็นจำนวนมากในขณะนี้ด้วย

ทั้งนี้ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิมีจุดที่น่าเป็นห่วงมากขึ้น จาก "คลัสเตอร์" การดื่มเหล้าแก้วเดียวกัน หรือแก้วเป็กตามร้านค้าในชุมชน หมู่บ้านต่าง ๆ  ดังนั้นสสจ.ชัยภูมิต้องเร่งมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่พบกับเจ้าของร้านค้าในชุมชนต่างๆ ตามหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และตัวจังหวัด เพื่อขอความร่วมมือให้ยกเลิกการให้บริการขายเหล้าแก้วเป๊กเหล้าขาว ให้กับประชาชนในพื้นที่ไปก่อนในช่วงนี้ด้วย เพราะปัจจุบันการแพร่เชื้อติดได้ง่ายมากขึ้น

ขณะนี้ทั้งจังหวัดชัยภูมิ เกิด "คลัสเตอร์" ใหม่ขนาดใหญ่แทบทุกพื้นที่ภายในจังหวัด มีการปิดหมู่บ้านแล้ว 47 หมู่บ้าน โรงเรียน 5 แห่ง ร้านอาหารกึ่งผับ อีก 11 แห่ง ทำให้เตียงรับผู้ป่วยโควิด-19 ตามโรงพยาบาลประจำอำเภอต่าง ๆ ใกล้เต็ม ซึ่งต่อไปผู้ป่วยโควิด-19ที่จะเข้ารักษาตัวในโรงพยาลต้องเป็นกลุ่มสีแดง ซึ่งผู้ป่วยโควิด-19ในกลุ่มสีเหลือง และสีเขียว จะเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลสนาม และหมอจ่ายยาให้รักษาตัวที่บ้าน ซึ่งโรงพยาบาลสนามใน อ.เมือง ได้ให้มีการเพิ่ม รพ.สนามอีกแห่ง ขนาด 150 เตียง ภายในโรงยิมเนเซี่ยม สิริวัณวรี สนามกีฬากลางจังหวัดชัยภูมิเพิ่มอีกแห่ง เพิ่มเติมจาก รพ.สนามภายใน บขส.แห่งที่ 2 ขนาด 120 เตียง ที่ขณะใกล้เต็มแล้ว พร้อมให้แต่ละตำบลในทุกอำเภอ ได้เตรียมพื้นที่ตั้ง รพ.สนามในแต่ละอำเภอเพิ่มอีกด้วย