โควิด-19

จับตา "โควิด19" ครึ่งปีหลังสถานการณ์แนวโน้มดีขึ้นคนไทยเริ่มหายใจได้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"โควิด19" หมอธีระเผย ครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีขึ้นคนไทยได้หายใจหายคอ ซัดนโยบายสาธารณสุขทำทุนมนุษย์เสียไปเพราะโควิดจำนวนมาก

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือ "หมอธีระ" โพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat1 ถึงสถานการณ์การระบาดของ "โควิด19" ทั่วโลก และประเทศไทย โดยระบุว่า  


15 กุมภาพันธ์ 2565
ทะลุ 413 ล้านแล้ว
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 1,419,789 คน ตายเพิ่ม 7,155 คน รวมแล้วติดไปรวม 413,717,588 คน เสียชีวิตรวม 5,843,450 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ รัสเซีย เยอรมัน ญี่ปุ่น ตุรกี และบราซิล
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 89.7 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 78.29
ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นคิดเป็นร้อยละ 50.84 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 41.59
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 4 ใน 10 อันดับแรก และ 9 ใน 20 อันดับแรกของโลก

 

จับตา "โควิด19" ครึ่งปีหลังสถานการณ์แนวโน้มดีขึ้นคนไทยเริ่มหายใจได้

รศ.นพ.ธีระ ระบุ เพิ่มเติมว่า ทุนมนุษย์ที่สูญเสียไปจาก "โควิด19"
Ourworldindata ได้อัพเดตข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการเสียชีวิตในช่วงปีที่มีการระบาดของโรค "โควิด19" เปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วงก่อนมีการระบาด เพื่อชี้ให้เห็นว่าแต่ละประเทศมีอัตราการเสียชีวิตมากขึ้นกว่าเดิมมากน้อยเพียงใด
ยิ่งมีอัตราการเสียชีวิตมากขึ้นกว่าเดิมมากเท่าใด นั่นย่อมสะท้อนการสูญเสียทุนมนุษย์ของประเทศนั้นมาก หากดูไทยเราจะพบว่า excess death นั้นสูงขึ้นมากในช่วงปีที่ผ่านมาคือทั้งระลอกสองและสาม ดังที่เราทราบกันดีว่ามีการติดเชื้อมากและเสียชีวิตมาก โดยเป็นผลจากนโยบายทั้งด้านสาธารณสุข ทั้งมาตรการควบคุมป้องกันโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัคซีนที่มีปัญหา รวมถึงมีการเดินทางและท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลกันมาก

"โควิด19" ในระลอกที่ 4 หรือระลอก Omicron นั้น แม้ความรุนแรงของโรคจะลดลงกว่าเดลต้า แต่เรื่องที่จำเป็นต้องตระหนักคือ สามารถแพร่เชื้อติดเชื้อได้ไวกว่าเดิม สิ่งที่ต้องระวังจะไม่ได้อยู่ที่การนอนโรงพยาบาลหรือการเสียชีวิต แต่จะเป็นเรื่องผลกระทบระยะยาวหลังจากติดเชื้อ ในลักษณะภาวะอาการคงค้าง หรือโรคเรื้อรัง ที่เราเรียกว่า Long COVID ที่จะส่งผลต่อสมรรถนะของร่างกายและจิตใจ ทำให้เกิดปัญหาในการดำเนินชีวิตประจำวัน ทั้งที่บ้าน และสมรรถนะการทำงาน นอกจากนี้ยังเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งระดับบุคคล ครอบครัว และสังคมในระยะยาวด้วย
ดังนั้นการป้องกันตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ยังเป็นเรื่องสำคัญมากในภาวะที่การระบาดในประเทศยังเป็นไปอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง


ใส่หน้ากาก เว้นระยะห่างจากคนอื่น พบปะคนเท่าที่จำเป็น ใช้เวลาสั้นๆ เลี่ยงการกินดื่มหรือแชร์ของกินของใช้ร่วมกับผู้อื่น 
หากไม่สบาย ควรหยุดเรียนหยุดงาน ตรวจรักษาให้หายดีเสียก่อน เป็นการแสดงความรับผิดชอบทั้งต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม

 


ครึ่งปีหลัง ดูแนวโน้มแล้วน่าจะหายใจหายคอได้ดีขึ้น ดังนั้นจึงควรประคับประคองกันและกันให้ผ่านช่วงนี้ไปตลอดรอดฝั่ง ไม่ประมาท มีสติ และใช้ความรู้ที่ถูกต้องในการตัดสินใจ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ