โควิด-19

"โอไมครอน" ไตรมาส 2 พีคสุด ติดเชื้อซ้ำพุ่ง ฉีดแล้วก็ติดสูง เจอ Long COVID หนัก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"โอไมครอน" ไตรมาส 2 ปี 2565 พีคสุด "หมอธีระ" คาด จำนวนผู้ติดเชื้อซ้ำพุ่ง ฉีดวัคซีนแล้วก็ติดสูง แถมต้องเจอภาวะ Long COVID หนักถึง 20-40%

"หมอธีระ" รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยังคงอัปเดตสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ "โอไมครอน" หรือ "โอมิครอน" Omicron โดยโพสต์เฟซบุ๊กล่าสุด Thira Woratanarat ระบุว่า ถึงทะลุ 403 ล้านแล้ว เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 2,298,201 คน ตายเพิ่ม 10,132 คน รวมแล้วติดไปรวม 403,304,053 คน เสียชีวิตรวม 5,792,980 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เยอรมัน รัสเซีย บราซิล อเมริกา และตุรกี จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 86.4 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 78.3

 

 

 

ล่าสุด จำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้น คิดเป็นร้อยละ 51.24 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 34.43 เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 5 ใน 10 อันดับแรก และ 12 ใน 20 อันดับแรกของโลก ส่วนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียตะวันออก ภาพรวมการระบาดของ Omicron ทั่วโลก หลายทวีปเป็นขาลง ทั้งยุโรป อเมริกาเหนือและใต้ โอเชียเนีย และแอฟริกา 

 

 

 

"โอไมครอน" ไตรมาส 2 พีคสุด ติดเชื้อซ้ำพุ่ง ฉีดแล้วก็ติดสูง เจอ Long COVID หนัก

ทั้งนี้ ทวีปเอเชียชะลอตัว ยกเว้นหลายประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียตะวันออก ซึ่งกำลังอยู่ในขาขึ้นชัดเจน รวมถึงประเทศไทยด้วย 

 

 

 

"โอไมครอน" ไตรมาส 2 พีคสุด ติดเชื้อซ้ำพุ่ง ฉีดแล้วก็ติดสูง เจอ Long COVID หนัก

 

 

 

"หมอธีระ" คาดการณ์ไตรมาสสองของปี 2565 หลังพีคระลอก Omicron ในเดือนกุมภาพันธ์ คาดว่าขาลงของไทย จะมีจำนวนการติดเชื้อต่อวันในระดับสูงกว่าช่วงขาลงของระลอกก่อน ดังนั้น การป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอจึงมีความจำเป็น การติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันในช่วงไตรมาสสอง หากพิจารณาจากธรรมชาติการระบาดของต่างประเทศ อาจเห็นสองลักษณะที่เพิ่มมากขึ้น ถ้าไม่ป้องกันให้ดี คือ จำนวนผู้ที่ติดเชื้อซ้ำ (reinfection) จะสูงขึ้น และการติดเชื้อในกลุ่มประชากรที่เคยได้รับวัคซีนมาก่อนจะมากขึ้นได้ ซึ่งทั้งสองลักษณะนั้น ก็ไม่ได้ทำให้แปลกใจ เพราะสอดคล้องกับความรู้ที่มีอยู่เดิมว่า ไวรัสสายพันธุ์ Omicron นั้นหลบหลีกภูมิได้มาก และมีอัตราการทำให้เกิด
การติดเชื้อซ้ำสูงกว่าสายพันธุ์เดิม

ทั้งนี้ สายพันธุ์ BA.2 ที่กลายพันธุ์และเป็นที่จับตามองกันอยู่นั้น ข้อมูลขณะนี้พบว่า แพร่เร็วกว่า Omicron ดั้งเดิมคือ BA.1 แต่การหลบหลีกภูมิคุ้มกัน ไม่น่าจะต่างจากเดิม และอัตราการติดเชื้อซ้ำนั้นไม่ได้มากไปกว่า BA.1 สิ่งสำคัญที่ต้องย้ำเตือนกันคือ การติดเชื้อนั้นแม้จะรุนแรงน้อยกว่าเดลตา แต่ที่ควรระวังคือผลกระทบระยะยาวหลังจากติดเชื้อ คือ Long COVID ซึ่งขณะนี้เรายังไม่ทราบชัดเจนว่าสายพันธุ์ Omicron จะทำให้เกิดภาวะนี้มากกว่าเท่ากับ หรือน้อยกว่าสายพันธุ์ก่อน ๆ ซึ่งพบว่ามีสัดส่วนสูงถึง 20-40% และเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย เกิดได้ทั้งในคนติดเชื้อที่ไม่มีอาการ อาการน้อย หรืออาการรุนแรง ทั้งนี้ น่าจะเห็นผลการวิจัยเรื่องนี้สำหรับสายพันธุ์ Omicron ในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า การป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อย่อมดีกว่า ใส่หน้ากาก เว้นระยะห่างจากคนอื่น พบปะคนเท่าที่จำเป็น ใช้เวลาสั้น ๆ เลี่ยงการกินดื่ม หรือแชร์ของกินของใช้ร่วมกับผู้อื่น หากไม่สบาย ควรแจ้งคนใกล้ชิด และคนในที่ทำงาน หยุดเรียนหยุดงาน และไปตรวจรักษา เป็นการแสดงความรับผิดชอบทั้งต่อตนเองและสังคม

 

 

 

"หมอธีระ" ย้ำว่า โควิด-19 นั้นจะซาลงแน่ อย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่นโยบายระดับชาติและการดำรงชีวิตของประชาชนต้องเป็นไปอย่างมีสติ ไม่ประมาท ขืนกระโดดไล่ตามกิเลส จะเสียหายหนักระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบจาก Long COVID

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ