สธ.อัปเดตสถานการณ์ "โควิด-19" จุดพีคมาถึงแน่ อีก 2-3 สัปดาห์ เริ่มเห็นผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มมากขึ้น คลัสเตอร์ใหม่เกิดขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะงานบวช-งานบุญ
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวระหว่างการแถลง อัปเดตสถานการณ์และมาตรการป้องกันควบคุมโรค "โควิด-19" ว่า จากสถานการณ์ติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งวันนี้มียอดสูง 9,909 ราย และมีการตรวจ ATK พบติดเชื้ออีก 4,973 ราย ตัวเลขดังกล่าวคือว่าเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โดยคลัสเตอร์ที่พบการติดเชื้อขณะนี้คือ งานเลี้ยงสังสรรค์ งานศพ งานบุญ งานแต่ง งานบวช หรืองานกินเลี้ยง เมื่อรับเชื้อมาแล้วเอาไปติดคนในครอบครัว ส่วนโรงงาน และโรงเรียนพบจำนวนน้อย ขณะที่โรงพยาบาล ส่วนใหญ่ติดจากข้างนอกแล้วไปติดในกลุ่มบุคลากร ไม่ใช่การติดจากการทำงาน
ดังนั้น เราต้องพิจารณาทั้งการควบคุมโรคและการดำเนินชีวิตของประชาชน ขณะเดียวกันหลายประเทศออกมาประกาศให้เป็นโรคประจำถิ่นกัน และยุโรปที่พบการติดเชื้อวันละเป็นแสนราย ก็ประกาศยกเลิกหลายอย่าง ขณะที่ไทยติดเชื้อไม่ถึงหมื่นรายแต่ไม่ได้แปลว่ามันจะหยุดเท่านี้ โดยแนวโน้มก็น่าจะเพิ่มขึ้นได้ใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า
ด้าน นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์โรค "โควิด-19" ทั่วโลก พบว่า วันที่ 27 มกราคม 2565 เป็นวันที่ทั่วโลกพบผู้ติดเชื้อสูงสุดในระลอกสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งได้ผ่านมาแล้ว ส่วนผู้เสียชีวิตมีจำนวนเพิ่มสูงมากขึ้น แต่ไม่ได้สูงมาก ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อยืนยันว่าเชื้อโอไมครอนไม่ได้มีความรุนแรง แต่หากติดเชื้อมาก ก็จะพบอัตราเสียชีวิตสูงขึ้นได้ ขณะที่ประเทศแอฟริกาใต้ ผ่านพ้นจุดสูงสุดของการติดเชื้อไปตั้งแต่ก่อนปีใหม่ ประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา และฝรั่งเศส ก็เช่นกัน ซึ่งตอนนี้การติดเชื้อลดลง แต่การเสียชีวิตเพิ่มเล็กน้อยแต่ไม่เท่ากับตอนสายพันธุ์เดลต้า
นพ.เฉวตสรร กล่าวต่อว่า สำหรับประเทศไทย ข้อมูลการติดเชื้อ "โควิด-19" เฉลี่ย 7 วัน พบว่าเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2565 มีการติดเชื้อสูงสุดของระลอกเดือนมกราคม 2565 อย่างไรก็ตาม วันนี้มีผู้ติดเชื้อใหม่ 9,909 ราย เสียชีวิต 22 ราย ผู้ป่วยปอดอักเสบ 516 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 105 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่คงตัวจาก 2 สัปดาห์ที่แล้ว แต่ขณะนี้กราฟการติดเชื้อมีการยกตัวสูงขึ้น
สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ จำแนกกลุ่มผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,909 ราย พบว่า อายุ 30-49 ปี มีอัตราติดเชื้อสูงที่สุด ร้อยละ 32.9 ส่วนที่เรากังวลการติดเชื้อในเด็ก วันนี้พบอายุ 0-9 ปีเพียง ร้อยละ 10.3 ซึ่งปัจจัยเสี่ยงยังลักษณะเดิมคือ กิจกรรมที่พบปะกัน ร่วมงานสังสรรค์ที่เปิดหน้ากากอนามัย ทำให้เรายังพบคลัสเตอร์นี้อยู่ถึงร้อยละ 48 ส่วนผู้สัมผัส พบร้อยละ 47 การตรวจ ATK ร้อยละ 4 และ บุคลากรแพทย์สาธารณสุข ร้อยละ 0.6
ข่าวที่เกี่ยวข้อง