โควิด-19

"วัคซีนเข็ม 3" รีบฉีด 2 เข็ม 6 เดือน รับมือ "โอไมครอน" ลด ป่วย-ตายเหลือไม่ถึง 50%

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หมอเฉลิมชัย ย้ำ "วัคซีนเข็ม 3" สำคัญต้องรีบฉีด หลัง 2 เข็มทิ้งห่างนาน 6 เดือน ประสิทธิผลในการรับมือ "โอไมครอน" ลดลงฮวบ เหลือเพียง 10%

อัปเดต "วัคซีนเข็ม 3" เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์ "โอไมครอน" หรือ "โอมิครอน" Omicron  เช็คจุด "ฉีดวัคซีนเข็ม 3" สำหรับผู้ประกันตน ม. 33 ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด คลิกที่นี่

 

ล่าสุด "หมอเฉลิมชัย" นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊ค Chalermchai Boonyaleepun  ให้แนะนำเรื่องการ "ฉีดวัคซีน" โดยเฉพาะ "วัคซีนเข็ม 3" ว่า ทุกคนควรฉีด "วัคซีนเข็ม 3" เพื่อรับมือ "โอมิครอน" เพราะวัคซีน 2 เข็ม มีประสิทธิผลเหลือเพียง 10% 
 

  1. ขณะนี้ไวรัสสายพันธุ์ "โอมิครอน" ได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักของโลก และในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว ( มากกว่า 90% ในไทย) 
  2. เราจึงต้องใช้ข้อมูลคุณลักษณะของไวรัส "โอมิครอน" ตลอดจนสถิติต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง มาใช้เป็นหลักในการวิเคราะห์ และวางมาตรการต่าง ๆ
  3. มีรายงานการศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิผลของการฉีดวัคซีน ( VE : Vaccine Effectiveness) ต่อไวรัสสายพันธุ์ "โอมิครอน" หลายการศึกษา ทั้งในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และอิสราเอล สรุปได้ว่า การฉีดวัคซีน แม้จะเป็นชนิด mRNA สองเข็ม จะรับมือกับไวรัสโอมิครอนได้น้อยลงกว่าการรับมือกับสายพันธุ์เดลตาอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในกรณีที่ฉีดวัคซีน 2 เข็มมากกว่า 6 เดือน จะทำให้ประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อลดลงเหลือเพียง 0-10% ลดการนอนโรงพยาบาลได้เพียง 30% และลดการเสียชีวิตได้เพียง 40% 
  4. จึงจำเป็นต้องเร่งฉีด กระตุ้นเข็ม 3 ในผู้ที่ฉีดเข็ม 2 มานานกว่า 6 เดือนแล้วทุกคน ซึ่งจะทำให้ประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาเป็น 50-75% ลดการนอนโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นมาเป็น 80-95% และลดการเสียชีวิตได้ 85-99% (ในช่วง 3 เดือนแรก หลังฉีดวัคซีนเข็ม 3 )
  5. การฉีดวัคซีนดีกว่าการไม่ฉีดวัคซีนอย่างชัดเจน โดยพบว่าจะนอนโรงพยาบาล หรือป่วยหนักน้อยกว่า 4-15 เท่าตัว
  6. ระยะเวลาที่เหมาะสำหรับการฉีดกระตุ้นเข็ม 3 คือต้องเว้นห่างจากเข็ม 2 อย่างน้อย 3 เดือน เพื่อให้ภูมิคุ้มกันขึ้นได้ดี และไม่ควรนานเกิน 6 เดือน เพราะภูมิคุ้มกันจากเข็ม 2 จะตกลงมาต่ำมาก
  7. สำหรับประเทศไทย จึงควรเร่งมาตรการฉีดกระตุ้นเข็ม 3 ให้กับผู้ที่ฉีดเข็ม 2 ไปแล้วทุกคน โดยเฉพาะในกลุ่มที่ฉีดไปแล้วมากกว่า 3 เดือนและจำเป็นอย่างยิ่ง ในกลุ่มที่ฉีดแล้วเกิน 6 เดือน

หมอเฉลิมชัย ย้ำว่า ควรฉีด "วัคซีนเข็ม 3" ให้ได้อย่างน้อย 50 ล้านคน ซึ่งจากการตรวจสอบตัวเลขสถิติวัคซีนขณะนี้ ประเทศไทยเราฉีดวัคซีนเข็ม 3 แล้วได้ 13.43 ล้านคน คิดเป็น 19.3% ของประชากร ยังขาดอยู่อีกประมาณ 37 ล้านโดส โดยเข็มหนึ่งฉีดไปแล้ว 52.21 ล้านโดส เข็มสองฉีดไป 48.43 ล้านโดส การฉีดเข็ม 3 ให้ได้จำนวนมากพอ (50ล้านโดส) เพื่อรองรับ "โอมิครอน" จะทำให้สถานการณ์เตียงในโรงพยาบาลไทยไม่เข้าสู่ภาวะวิกฤต เพราะขณะนี้มีผู้นอนอยู่ในโรงพยาบาลหลัก 41,660 ราย โรงพยาบาลสนาม 31,994 ราย แยกกักที่บ้าน 9394 ราย รวมทั้งสิ้น 83,698 ราย

 

"วัคซีนเข็ม 3" รีบฉีด 2 เข็ม 6 เดือน รับมือ "โอไมครอน" ลด ป่วย-ตายเหลือไม่ถึง 50%

logoline