"โอไมครอน" ตีกรุงแตกแล้ว เจอ Aftershock ดร.สันต์ แนะทำ 10 ข้อ ก่อนยอดทะลุแสน
"โอไมครอน" ตีกรุงแตกแล้ว ดร.สันต์ เตือน เจอ Aftershock แน่ หากประมาท Omicron น่ารักน่าเอ็นดู แนะ 10 ข้อ ก่อนยอดทะลุเหยียบแสนต่อวัน
อัปเดตสถานการณ์โควิดสายพันธุ์ "โอไมครอน" หรือ "โอมิครอน" (Omicron) ภายหลังกระทรวงสาธารณสุขแถลงว่า พบการระบาดกินพื้นที่แล้ว 98% ในประเทศไทย ล่าสุด ดร.สันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง นักวิชาการ โพสต์ข้อความ ระบุว่า กรุงเทพมหานคร แตกแล้วครับ ยืนยันสถานการณ์ระดับ Exponential ใน กทม. เตรียมรับแรงปะทะจาก Aftershock ขนาดใหญ่มากถึงมากที่สุดครับ วันนี้ (21 ม.ค.2565) ตัวเลขผู้ติดเชื้อ "Omicron" หรือ "โอไมครอน" สะสมทั่วประเทศจากการคำนวณแบบ Super Position ทะลุ 100,000 คน เรียบร้อยแล้ว ในจำนวนนี้ประมาณ 6,000 คน อยู่ใน กทม. และกำลังทวีจำนวนขึ้นอย่างเร็ว 3 วันที่ผ่านมา ตัวเลข กทม. 8,211,172 วันนี้ 1,637 เราคงไม่สามารถปิดตาข้างนึงแล้วบอกต่อไปว่า "ตัวเลขมัน Ok" ได้อีกต่อไปแล้ว ประชาชนจำเป็นที่จะต้องรู้ว่า "ตัวเลขแบบนี้หมายถึงอะไร"
ดร.สันต์ ระบุว่า "Omicron" เข้าตีกรุงฯแบบ Trojan War และบัดนี้กองทหารของ "Omicron" ที่ซ่อนอยู่ในม้าโทรจัน ได้ถือหอกดาบ ยาตราออกจากม้าไม้
กระจายไปทั่วเมือง และน่าจะยึดเมืองหลวงสำเร็จเด็ดขาดในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ผมต้องขอแสดงความเสียใจด้วย เพราะเราจะแพ้แน่นอน เพราะแม่ทัพใหญ่ เพียงแค่ได้เห็นข้าศึก แสร้งถอนกำลังจากทุ่งนอกกำแพงเมือง ก็หัวใจฟูรีบสั่งถอนทัพ ลดเวรยาม ไปตั้งวงเหล้าสบายใจ ณ วินาทีนี้ สำหรับคนในพระนคร ตัวใครตัวมันครับ
ตัวเลขและกราฟ:
ตัวเลข 3 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อวาน และวันนี้ กทม. กราฟ Super Position Wave 5 ในกทม.ยืนยัน Exponential ที่มี % Increase สูงถึง 20% หรือมี Doubling Day สั้นแค่ 4 วัน ผู้ติดเชื้อกำลังเพิ่มเป็น 2 เท่า ทุก ๆ 4 วัน
- กราฟ % Increase ต่อเนื่อง Wave 3,4,5 ของ กทม.กระดกหัวขึ้นแบบ Vertical หลังจากที่ถูกยันเอาไว้ได้พักใหญ่ ที่ผ่านมาเราทำกันได้ดี แต่ดีไม่พอ และไม่ยาวนานพอ
- กราฟ Total Case Wave 5 ในกทม.ตัวเลขจริงเส้นสีแดงหลุดจากประมาณการ เส้นประสีเหลืองแบบขึ้นดิ่ง ความชันน่ากลัวมาก
- กราฟ Daily New Case ประเทศไทย เริ่มได้รับผลกระทบ สูญเสียขาทรงตัว กำลังพลิกกลับเป็นขาขึ้น จากนี้ไป ตัวเลข กทม.ปริมณฑล จะเป็นตัวกำหนดกราฟแทนที่หัวเมือง กราฟ % Increase ประเทศไทยจากเดิมเป็นขาลง กำลังเริ่มเสียทรงจะวิ่งเข้าติดกับดักที่ 8% Trap ซึ่งสูงมาก ๆ
ดร.สันต์ สรุปว่า เรื่องกราฟสั้น ๆ คือ รหัสแดง ทุกกราฟ สิ่งที่ต้องทำทันที:
- ปกป้องระบบสาธารณสุข ปกป้องโรงพยาบาลให้กับผู้ป่วย Non Covid ซึ่งตอนนี้ยังล้นโรงพยาบาล อั้นมานานมาก ถึงเวลาที่เราต้องช่วยกันรักษาโรงพยาบาลสำหรับคนไข้ทุกประเภท ทุกโรคเอาไว้ให้ได้
- WFH ในเขต กทม.ปริมณฑลต่อไปอีกอย่างน้อย 1 เดือน
- อย่าออกนอกบ้านไปกินเหล้า อย่าตั้งวงในออฟฟิศ รวมทั้งวงส้มตำด้วย
- ตรวจ ATK ให้ถี่ ทั้งในโรงเรียน สถานที่ทำงาน โรงงาน
- เตรียม Home Isolation, Community Isolation, Hospitel, โรงพยาบาลสนาม กลับมาเต็มกำลัง
- การใส่หน้ากากสำคัญที่สุด ช่วยได้มากที่สุดในยามนี้ 2 ชั้นไปเลยยิ่งดี
- รีบไปฉีดวัคซีนตามนัดหมายกันให้มากที่สุดทุกคน เพื่อลดภาระระบบสาธารณสุข ลดการป่วยหนัก ป่วยตาย จะได้รักษาตัวอยู่บ้านได้โดยปลอดภัยพอสมควร
- นี่ไม่ใช่การซ้อม แต่คือของจริง
- เลิกคิดได้แล้วว่า "Omicron" น่ารักน่าเอ็นดู เป็นวัคซีนเชื้อเป็น ติดง่ายหายเร็ว มีอาการแค่เล็กน้อย ไม่ลงปอด ฯลฯ ทุกวันนี้ Covid สังหารคนทั่วโลกประมาณวันละ 8,000 - 9,000 คนทุกวัน และส่วนใหญ่เป็น "Omicron" แล้ว ปีนึงก็น่าจะเกือบ 3 ล้านคน รุนแรงกว่าไข้หวัดใหญ่ประมาณ 5-10 เท่า
- เราต้องหยุดมันให้ได้โดยทันที เพราะถ้าทำไม่ได้ กทม.สถานีถัดไปคือ 5,000 ในช่วงสัปดาห์หน้า และจะไปต่อที่ 10,000 ก่อนสิ้นเดือน และเลวร้ายสุดสามารถไปไกลได้ถึง 70,000 คนต่อวันต่อประชากร 10 ล้านแบบ Israel เมื่อเราพูดถึง Trojan War เมื่อราว 3,300 ปีก่อน เราจะนึกถึงความประมาท การดูแคลนศัตรู พวกทรอยเสียเมืองวอดวายก็ด้วยเหตุนี้ แต่ทุกศึกสงครามก็ย่อมต้องมีวันที่จะสิ้นสุดลง สงครามโทรจันก็เช่นกัน พวกทรอยเสียเมืองไปก็หนีไปสร้างเมืองใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม นั่นก็คือกรุงโรม ครั้งนี้ก็เช่นกันสงคราม "Omicron" ก็จะต้องยุติลงไม่ช้าก็เร็ว แต่ก็เหมือนสงครามกรุงทรอย ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ออกจากเมือง และไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ไปใช้ชีวิตใหม่ในกรุงโรม
ดร.สันต์ โพสต์ทิ้งท้ายว่า "ขอให้ทุกท่านโชคดีครับ ดูแลคนที่ท่านรักและครอบครัว สู้เต็มที่อย่าประมาท แล้วจะผ่านมันไปได้แน่นอนครับ"