องค์การอนามัยโลก ฟันธง "โอไมครอน" ไม่ใช่ตัวสุดท้ายที่จะปิดเกม อาจเจอสายพันธุ์ใหม่อีก หลังยอดติดทั่วโลกยังพุ่ง 20%
(19 ม.ค.2565) แพทย์หญิงมาเรีย แวน เคอร์โฮฟ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคองค์การอนามัยโลก หรือ "WHO" แถลงข่าวประจำรายสัปดาห์ ที่กรุงเจนีวาสวิสเซอร์แลนด์ ว่า คนจำนวนมากพูดถึงสายพันธุ์ "โอไมครอน" จะเป็นสายพันธุ์สุดท้ายของโรคระบาดโควิด-19 สิ่งเหล่านั้นไม่เป็นจริง เพราะเชื้อไวรัสนี้แพร่กระจายและหมุนเวียนในระดับที่เข้มข้นสูงไปทั่วโลก นอกจากนี้ ภาวะโรคระบาดโควิด-19 ยังไม่จบสิ้น แม้ว่าในบางประเทศจะพบยอดติดเชื้อลดลงบ้าง สาเหตุจากการติดเชื้อทั่วโลกในภาพรวมที่ยังมีอยู่สูงต่อเนื่อง ทำให้นำไปสู่ไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ใหม่ เนื่องจากไวรัสเกิดการกลายพันธุ์ได้
แพทย์หญิงมาเรีย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั่วโลกมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พุ่งสูงถึง 20% นั่นหมายถึงมีจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งทะยานถึงเกือบ 19 ล้านรายในสัปดาห์เดียว ที่สำคัญคือ "องค์การอนามัยโลก" พบว่า การรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อต่ำกว่าความเป็นจริง ดังนั้น จำนวนผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 อาจเพิ่มสูงมากกว่าที่พบเห็น เพราะฉะนั้น ขณะนี้จึงยังไม่ใช่เวลาที่จะผ่อนคลายมาตรการสาธารณสุข เช่น ผ่อนคลายการสวมใส่หน้ากากอนามัย และลดมาตรการรักษาระยะห่าง ถ้าหากไม่เพิ่มความเข้มงวดในมาตรการสาธารณสุข เราจะเผชิญกับวิกฤติโรคระบาดครั้งใหม่
ด้าน นายแพทย์บรูส อัลวาร์ด เจ้าหน้าที่อาวุโส องค์การอนามัยโลก กล่าวเตือนว่า ขณะนี้พบการระบาดแพร่เชื้อที่มีอย่างรวดเร็ว และเกิดขึ้นจำนวนมาก ทำให้เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีโอกาสสูงมากในการกลายพันธุ์ ทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการที่โลกจะเผชิญกับโรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่
ขณะที่ ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก หรือ WHO กล่าวว่า การระบาดรอบใหม่กำลังใกล้ถึงจุดสูงสุดในบางประเทศ ทำให้เห็นความหวังว่าสายพันธุ์ "โอไมครอน" ที่เลวร้ายจะสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตาม ไม่มีประเทศใดสามารถเดินพ้นออกจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ได้ ขอเตือนว่า ระบบสาธารณสุขตกอยู่ในภาวะแรงกดดันสูงจากระลอกการระบาดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ "โอไมครอน" ในประเทศไทย พบว่า ข้อมูลศูนย์แล็บจุฬาฯ เปิดเผยว่า ผลตรวจเชื้อเป็น "โอไมครอน" มากกว่า 90% แล้ว สอดคล้องกับ ศูนย์จีโนมทางการแพทย์รามาธิบดี ก็เปิดเผยว่า ที่ตรวจได้ตอนนี้ เป็นโอไมครอน 97.1% (69/71) เดลตา 2.8% (2/71)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง