โควิด-19

"ฉีดวัคซีนเข็ม 3" ทุกสูตร ป้องกัน "โอไมครอน" ได้ 90%

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กรมควบคุมโรค ยืนยัน "ฉีดวัคซีนเข็ม 3" ทุกสูตรมีประสิทธิภาพดีป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตจาก "โอไมครอน" ได้ 90% ย้ำประชาชนทุกคนรีบฉีด

กรมควบคุมโรค ยืนยัน "ฉีดวัคซีนเข็ม 3" ทุกสูตรมีประสิทธิภาพดีป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตจาก "โอไมครอน" ได้ 90% ย้ำประชาชนทุกคนรีบฉีด

 


วันนี้ 15 มกราคม 2565 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์และประสิทธิผลวัคซีนโควิด-19 ว่า ขณะนี้มีการฉีดวัคซีนไปได้แล้วกว่า 108 ล้านโดส ซึ่งในเดือนมกราคมนี้ กระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าการฉีดวัคซีนให้ได้อย่างน้อย 9 ล้านโดส ขณะนี้ผ่านไปได้ครึ่งทางสามารถฉีดวัคซีนได้ตามเป้า

 

เมื่อติดตามประเมินผลประสิทธิภาพของวัคซีนอย่างต่อเนื่อง ด้วยการวัดผลในพื้นที่จริง (Real World Effectiveness) พบว่า การ  "ฉีดวัคซีนเข็ม 3" มีประสิทธิภาพดีมาก ในการป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตจากโรคโควิดทุกสายพันธุ์ได้ถึง 90-100 เปอร์เซ็นต์

 

 

ทั้งการฉีดสูตรปกติ สูตรไขว้ หรือบูสเตอร์โดส อีกทั้งยังสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ดีพอสมควร แต่สิ่งที่สำคัญคือ ระยะเวลาในการฉีดวัคซีน หากผ่านพ้น 3 เดือนไปแล้วประสิทธิภาพจะค่อยๆ ลดลง เพราะฉะนั้น การ "ฉีดวัคซีนเข็ม 3" หรือบูสเตอร์โดสจึงเป็นเรื่องสำคัญ  

 

จากข้อมูลบ่งชี้ว่า ผู้ "ฉีดวัคซีนเข็ม 3" ทั้งสูตรแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) และไฟเซอร์ (Pfizer) มีประสิทธิผลป้องกันการติดเชื้อโรคโควิด 19 สายพันธุ์ "โอไมครอน" ได้มากถึง 80-90 เปอร์เซ็นต์จากการระบาดที่จังหวัดกาฬสินธุ์ 

นายแพทย์โอภาส กล่าวอีกว่า สำหรับนโยบายการบริหารจัดการ "ฉีดวัคซีนเข็ม 3" มีดังนี้

1.ผู้ที่ได้รับวัคซีน Sinovac-AstraZeneca ครบในเดือนสิงหาคม-ตุลาคม 2564 ให้ฉีดเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีน AstraZeneca  

2.ผู้ที่ได้รับวัคซีน AstraZeneca ครบ 2 เข็ม ในเดือนสิงหาคม-ตุลาคม 2564 ให้ฉีดเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีน Pfizer  

3.ผู้ที่ได้รับวัคซีนเชื้อตายครบ 2 เข็ม ตั้งแต่ 4 สัปดาห์ขึ้นไป  ให้ฉีดเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีน AstraZeneca

 

โดยผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็ม 2 ในเดือนกันยายน-ตุลาคม 2564 ให้มา "ฉีดวัคซีนเข็ม 3" ได้ภายในเดือนมกราคม 2565 ส่วนผู้ที่มีประวัติการติดเชื้อให้ฉีดวัคซีน AstraZeneca กระตุ้นได้ 1 เข็ม สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ แต่คนไหนที่ได้รับครบแล้วยังไม่ต้องกระตุ้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

logoline