วันเดียวสหรัฐติด "โควิด19" 1.48 ล้าน ลองคิดป็นไทยคือประมาณ 1.12 แสนคนต่อวัน

นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊ก Chalermchai Boonyaleepun ถึง สถานการณ์การระบาดของ "โควิด19" โดยระบุว่า 

ความรู้เรื่องCOVID-19 (ตอนที่1078) 12มค2565

สหรัฐฯพบติดโควิดวันเดียวมากถึง 1.48 ล้านคน ถ้าปรับเป็นของประเทศไทยแล้ว คือติดเชื้อวันละ 112,000 คน

สหรัฐอเมริการายงานผู้ติดโควิดในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา (วันจันทร์ที่ 10 มกราคม 2565) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 1.48 ล้านคน ทำลายสถิติเมื่อจันทร์ที่แล้วที่ 1.17 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นมากถึง 26% โดยพบไวรัสโอมิครอนเป็นสายพันธุ์หลักมากถึง 98% 
ในรายงานผู้ติดเชื้อนี้ มีข้อจำกัดที่ควรทราบคือ การรายงานตัวเลขในสหรัฐอเมริกา จะมีบางรัฐไม่รายงานผู้ติดเชื้อในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ 
แต่จะนำมายอดตัวเลขมารวมรายงานในวันจันทร์ จึงทำให้ตัวเลขในวันจันทร์ก้าวกระโดดมากกว่าวันอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ถ้าเปรียบเทียบแนวโน้มของผู้ติดเชื้อ ระหว่างวันจันทร์ต่อวันจันทร์ด้วยกัน ก็จะบอกแนวโน้มได้ว่า เพิ่มสูงขึ้นชัดเจน
ค่าเฉลี่ยในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเฉลี่ยวันละ 750,000 ราย

ถ้านำตัวเลขดังกล่าวมาเปรียบเทียบกับประเทศไทย โดยทำการปรับปัจจัยที่มีความแตกต่างกันและส่งผลกระทบถึงผู้ติดเชื้อ "โควิด19" ได้ ประกอบด้วย
1.ประเทศไทยมีประชากรน้อยกว่าสหรัฐ 4.77 เท่า คือไทยมี 70 ล้านคนสหรัฐมี 334 ล้านคน
2.ประเทศไทย ไวรัสเป็นโอมิครอน 70%  ของสหรัฐ 98% สหรัฐฯมีโอมิครอนมากกว่าไทยอยู่ 1.4 เท่า
เมื่อนำปัจจัยทั้งสองมาปรับแล้ว จะทำให้ยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯจาก 1.48 ล้านคนต่อวัน จะเป็น 2.21 แสนคนต่อวันในประเทศไทย
หมายความว่า ถ้าประเทศไทยมีปัจจัยทุกอย่างเหมือนกับสหรัฐอเมริกา เราจะพบผู้ติดเชื้อสูงสุดถึงวันละ 2.21 แสนคน

หากแต่ว่าเรามีปัจจัยที่แตกต่างและมีนัยสำคัญ ที่จะทำให้เรามีผู้ติดเชื้อน้อยกว่า ได้แก่
1.นโยบายของรัฐ สหรัฐฯผ่อนคลายมาตรการต่างๆมากกว่าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยยอมรับให้มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก
2.ขณะนี้เป็นช่วงฤดูหนาว ซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่าฤดูหนาวในเมืองไทยมาก จึงเหมาะกับการแพร่กระจายของไวรัส
3.ประชาชนของสหรัฐฯเช่นเดียวกับประชาชนในซีกโลกตะวันตก มีทัศนคติในการยอมรับการใส่หน้ากากอนามัยน้อยกว่าคนไทยหรือคนทางซีกโลกตะวันออก

นพ.เฉลิมชัย ระบุต่อว่า จึงทำให้คาดได้ว่า การติด "โควิด19" ของประเทศไทยจะไปไม่ถึงวันละ 2.21 แสนคน ด้วยปัจจัยดังกล่าว 
นอกจากนั้น ถ้านำตัวเลขค่าเฉลี่ยของสหรัฐฯมาคำนวณคือ ติดเชื้อเพิ่มวันละ 750,000 คน
จะทำให้ประมาณการว่า ประเทศไทยจะมีผู้ติดเชื้อไม่เกินวันละ 1.12 แสนคน
และถ้ามีปัจจัยที่แตกต่างกัน 3 ประการดังกล่าวข้างต้น ก็จะทำให้ไทยมีการติดเชื้อรายวันน้อยกว่า 1.12 แสนคน/วัน
ตัวเลขที่น่าสนใจของสหรัฐฯอีกประการหนึ่งก็คือ เมื่อมีการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น แม้จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อต้องนอนโรงพยาบาลคิดเป็นร้อยละน้อยลง
แต่เมื่อคิดเป็นจำนวนคนที่นอนแล้ว กลับเพิ่มสูงกว่าเมื่อการระบาดแล้วระลอกที่แล้ว
กล่าวคือเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อ 1.48 ล้านคน ต้องนอนโรงพยาบาลเพียง 10%  คือ 1.4 แสนคน แต่ก็มากพอที่จะทำให้โรงพยาบาลสหรัฐฯเริ่มมีลักษณะของการวิกฤติอีกครั้งหนึ่งแล้ว
ในขณะที่เตียงผู้ป่วยหนัก (ICU) มีผู้ครองเตียงอยู่ 23,000 เตียง น้อยกว่าการระบาดระลอกที่แล้ว ที่ 30,000 เตียง
จึงเห็นได้ว่า ปัญหาจะไม่ได้อยู่ที่ ICU เต็ม แต่จะอยู่ที่เตียงในโรงพยาบาล เต็ม
อีกประการหนึ่งคือ มีการติดเชื้อในเด็กมากขึ้น คาดว่าเกิดจากเด็กเป็นช่วงอายุที่ได้รับการฉีดวัคซีนน้อยที่สุด
พวกเราทุกคน จึงต้องร่วมแรงร่วมใจกัน โดยมีวินัยใส่หน้ากากตลอดเวลาเมื่อออกนอกบ้าน ให้มากกว่าคนอเมริกัน 
และละเว้นกิจกรรมเสี่ยงต่างๆ ทั้งเรื่องการทานอาหาร การร้องเพลง การสังสรรค์ที่อยู่ใกล้ชิดกัน โดยเฉพาะในสถานที่แออัดและระบายอากาศไม่ดี
ก็จะทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อ ผู้นอนโรงพยาบาล และผู้เสียชีวิตของไทยเราต่ำกว่าที่ประมาณการไว้