"โอไมครอน" ไทยกระจาย 71 จังหวัด ยอดพุ่งเหยียบหมื่น แค่สัปดาห์เดียวกินเดลตา

แพทย์หญิงสุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าว
ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ระบุว่า โดยสถานการณ์การติดเชื้อในประเทศไทย วันนี้ 
เป็นการเริ่มรายงานเป็นระลอกมกราคมปี 65 จากที่ทางอีโอซี กระทรวงสาธารณสุข เรียกตามภาพรวมการติดเชื้อโควิด-19 โดยภาพรวมประจำวันนี้ระลอก ม.ค.2565 ยอดผู้ติดเชื้อรวม  7,926  ราย หายป่วยแล้ว 3,612  ราย ยังรักษาอยู่ 58,159 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วย ปอดอักเสบ 495 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 115 ราย ซึ่งทั้งสองยอดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยพบว่า ยอดหายป่วย น้อยกว่าจำนวนผู้ที่รักษาตัวอยู่ ซึ่งเป็นผลจากยอดที่เพิ่มขึ้น แต่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้

ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 412 ราย เป็นนักท่องเที่ยวที่เข้ามา อยู่ในจังหวัดที่เป็นพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวเป็นส่วนใหญ่ 

ส่วนรายงานผู้เสียชีวิตจำนวน 13 ราย พบว่า 100%  เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้อยู่ในกลุ่มโรคเสี่ยง 

ส่วน สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดกลายพันธุ์ "โอไมครอน" กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รายงานข้อมูลการแพร่ระบาดของโควิด "โอไมครอน" แล้วจำนวน 5,397 ราย  กระจายไป 71 จังหวัด ซึ่งหากจำแนกการกลายพันธุ์ ตั้งแต่เดือน พ.ย.2564 - 9 ม.ค.2565 พบว่า เป็นสัดส่วนของเชื้อเดลตา 76.71% เป็น "โอไมครอน" 35.17% ที่เหลือนอกจากนี้ จะเป็นสายพันธุ์เบต้า กับ อัลฟ่า อยู่ที่ .03% และ .01% ตามลำดับ

แต่ถ้าพิจารณาเป็นสัปดาห์ สัปดาห์ที่เป็นการสุ่มตรวจจำแนกเชื้อล่าสุด 2-8 ม.ค. พบว่า เป็น "โอไมครอน" ถึง 70.3% เป็นเดลตา 29.7% จะเห็นได้ว่า เมื่อพิจารณาเป็นรายสัปดาห์ การเพิ่มขึ้นของ "โอไมครอน" เป็นไปตามคาดการณ์ โดยพบว่าเป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 91.3% และ 57.9% เป็นการติดเชื้อภายในประเทศ 

สำหรับภาพรวมการติดเชื้อ คาดว่า ปลาย ม.ค. อาจมีติดเชื้อถึง 2 หมื่นกว่าราย และปลายเดือน ก.พ.อาจไปถึง 3 หมื่นกว่าราย การคาดการณ์เสียชีวิตยังเป็นแนวทางเดียวกับโลก คือ ไต่ต่ำกว่าเส้นสีเขียว เพราะคนไทยได้รับวัคซีนครอบคลุม คนปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขเคร่งครัด ทั้งนี้ คนที่สงสัยว่าไปสถานที่เสี่ยง กิจกรรมเสี่ยง ให้สังเกตอาการ กรมการแพทย์ได้เก็บข้อมูล ลักษณะอาการของ "โอไมครอน" เห็นว่า 48% ไม่มีอาการ ส่วนอาการที่พบเยอะสุดคือไอ 54% เจ็บคอ 37% ไข้ 29%