โควิด-19

"โอไมครอน" ศูนย์จีโนม ชี้ เป็นตัวจบเกม "โควิด" ภายใต้เงื่อนไขสำคัญ

"โอไมครอน" ศูนย์จีโนม ชี้ เป็นตัวจบเกม "โควิด" ภายใต้เงื่อนไขสำคัญ

07 ม.ค. 2565

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ ชี้ “ภูมิคุ้มกันธรรมชาติ” และ ภูมิจากการฉีดวัคซีน จะเป็นสองประสาน ตัวเปลี่ยนเกมส์ โดยมี "โอไมครอน" เป็น ตัวจบเกม

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ ชี้ “ภูมิคุ้มกันธรรมชาติ” และ ภูมิจากการฉีดวัคซีน จะเป็นสองประสาน ตัวเปลี่ยนเกมส์ โดยมี "โอไมครอน" เป็น ตัวจบเกม 

 

วันนี้ 7 ม.ค. 65 เพจ เฟซบุ๊ก ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ โพสต์ว่า เมื่อสิ่งแปลกปลอมหลุดเข้าสู่ร่างกาย เช่นวัคซีนเชื้อตาย วัคซีนที่ใช้ไวรัสเป็นพาหะ หรือวัคซีน mRNA จะเข้าไปกระตุ้นเม็ดเลือดขาวประเภท บี-เซลล์ ให้สร้างแอนติบอดีเข้าจับและทำลายไวรัสในร่างกาย (neutralization)

 

แอนติบอดีโดยธรรมชาติมีความจำเพาะสูงอันทำให้เกิดปัญหาได้กล่าวคือ แอนติบอดีจากการติดเชื้อสายพันธุ์ “แอลฟา” ไม่สามารถยับยั้งสายพันธุ์ “เดลตา” ได้ แอนติบอดีจากการติดเชื้อ “เดลตา” ไม่สามารถยับยั้งสายพันธุ์  ได้ ทำให้แม้จะฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็ม 3 เข็ม 4 ซึ่งใช้ไวรัสดั้งเดิมเป็นต้นแบบ ก็ยังมีโอกาสติดเชื้อโอไมครอนได้ แต่ที่น่ายินดีคือแอนติบอดีจากการติด "โอไมครอน" สามารถยับยั้ง “เดลตา” ได้ดี ทำให้เริ่มมองเห็นแสงสว่างปลายอุโมง

 

 

สิ่งแปลกปลอมเมื่อเข้าสู่ร่างกายสำเร็จ นอกจากไปกระตุ้น บี-เซลล์ แล้วยังจะไปกระตุ้นเม็ดเลือดขาวประเภท ที-เซลล์ ให้ส่งสัญญานให้เม็ดเลือดขาวอีกหลายประเภทในร่างกายเข้าทำลายเซลล์ติดเชื้อไวรัสอันเสมือนเป็นรังโรค

 

“ที-เซลล์” ต่างจากบี-เซลล์ คือเมื่อได้รับการกระตุ้นจากไวรัสหรือวัคซีน จะส่งสัญญาณให้เม็ดเลือดขาวหลายประเภทเข้าทำลายเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสข้ามสายพันธุ์ได้ ไม่ว่าจะเป็นเซลล์ติดเชื้อสายพันธุ์ เดลตา "โอไมครอน" เบตา อัลฟา หรือสายพันธุ์ดั้งเดิมอู่ฮั่น

ด้วยเหตุนี้รวมทั้งข้อมูลจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ และผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโอไมครอนทั่วโลกมีแนวโน้มลดลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในประเทศที่มีการติดเชื้อตามธรรมชาติสูงมาก่อนและติดตามมาด้วยการฉีดวัคซีน เช่น แอฟริกาใต้ อิหร่าน อินเดีย จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ที่สามารถปกป้องประชากรทั้งประเทศจาก "โอไมครอน" และสายพันธุ์เดลตาร่วมด้วยได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ประกอบกับตัวโอไมครอนไม่ก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบรุนแรง

 

เนื่องจากมีการติดต่อเพิ่มจำนวนอยู่บริเวณทางเดินหายใจส่วนบนไม่ลงลึกเข้าทำลายเซลล์ปอด ทำให้ WHO ได้ออกมายืนยันว่ามีแนวโน้มที่ไวรัสกลายพันธุ์ "โอไมครอน" จะเป็นตัวจบเกมไวรัสโคโรนา 2019 ได้ในปีนี้ 2022 ภายใต้เงื่อนไขที่ต้องไม่มีความเหลื่อมล้ำในการแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19

 

โดยขอความร่วมมือจากประเทศที่พัฒนาแล้วช่วยสนับสนุนประชากรทุกประเทศในโลกให้ได้รับการฉีดวัคซีน 1-2 เข็มไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 เพื่อลดการป่วยหนัก เสียชีวิต และยุติการเกิดไวรัสกลายพันธุ์ที่จะมาแทนที่ "โอไมครอน" ในอนาคต