โควิด-19

รับมือ "โอไมครอน" ระบาดในเด็ก สธ.จัด"Community Isolation" 6 แห่งใน กทม.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รับมือ "โอไมครอน" ระบาดในเด็ก สธ.จัด "Community Isolation" 6 แห่งใน กทม. พร้อมจัด Factory Isolation สำหรับรองรับแรงงานต่างด้าว

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ "คมชัดลึก" ในประเด็นการเตรียมความพร้อมระบบสาธารณสุข หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์ "โอไมครอน" ที่ขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น หลังเทศกาลปีใหม่ ว่า ในส่วนความพร้อมเรื่องยานั้น แต่ละจังหวัดได้มีการสั่งสำรองยาเข้าไปเพิ่มเติมแล้ว ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ส่วนใน กทม.เอง ก็ได้มีการกระจายไปตามหน่วยหลักต่าง ๆ อยู่แล้ว ซึ่งยาหลักที่ใช้ยังคงเป็นยา "ฟาวิพิราเวียร์" นอกจากมีสำรองไว้หลายล้านเม็ดแล้ว ยังมีวัตถุดิบที่ทางองค์การเภสัชกรรมสามารถผลิตเพิ่มเติมได้ หากสต็อคร่อยหรอลง และในส่วนของยาตัวอื่น ก็ยังมีสำรองอยู่เช่นกัน

 

 

ส่วนเรื่องของเตียง นพ.สมศักดิ์ ระบุว่า ขณะนี้ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ พยายามสงวนเตียงเอาไว้ให้ผู้ป่วย ที่ควรจะได้นอนโรงพยาบาล โดยขอใช้นโยบาย "Home isolation" (HI) และ "Community Isolation" (CI) เนื่องจากอาการของ "โอไมครอน" มีความรุนแรงไม่มากนัก เพราะจากการตรวจสอบ 100 เคสในประเทศไทย พบว่า ไม่รุนแรงถึงครึ่ง ซึ่งหากไม่มีอาการ หรือ อาการไม่มาก อยากขอความร่วมมือให้รักษาตัวที่บ้าน หรือการทำ Home Isolation โดยยกตัวอย่างเช่น หากมีผู้ติดเชื้อ 1 หมื่นราย แต่ 8 พันรายอยู่บ้าน ก็จะมีแค่ 2 พันรายเท่านั้น ที่จะนอนโรงพยาบาล ก็จะสามารถช่วยเซฟไว้ได้มาก 

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า ขณะนี้ในระบบสาธารณสุขไทย มีเตียงอยู่ประมาณ 1 แสนกว่าเตียง แต่ใช้ไปแค่  20% เท่านั้น จึงสามารถยืนยันได้ว่า หาก "โอไมครอน" มาตามที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขคาดการณ์ คือวันหนึ่งไม่เกิน 3 หมื่นราย จำนวนเตียงจะไม่มีปัญหา และจะสามารถเซฟเตียงไปได้จำนวนมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้ป่วยจะต้องยอมที่จะรักษาตัวอยู่บ้าน

 

 

นพ.สมศักดิ์ ยืนยันว่า แม้จะเป็นฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุด ที่มีจำนวนผู้ป่วยหนัก ที่จะต้องเข้าไอซียู ก็จะมีจำนวนเตียงรองรับเพียงพออย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ในส่วนของ Community Isolation หรือ CI เพื่อแยกกักตัวผู้ป่วย ตอนนี้ทาง กทม.เตรียมไว้ 3 แห่ง จากเดิมมีเป็นร้อยแห่ง แต่เมื่อคนไข้น้อย จึงได้ปิดไป ซึ่งจัดเตรียมไว้เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ทำ Home Isolation ไม่ได้ และนอกเหนือจากนั้น ยังมีกลุ่มที่มีความกังวลอีกสองกลุ่ม คือ กลุ่มเด็ก 5-11 ปี ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน จึงมีความกังวลว่า จะมีการติดเชื้อมากขึ้น จึงได้มีการตกลงกันว่า ขอให้ กทม.และปริมณฑล เตรียม Community Isolation สำหรับเด็ก และครอบครัว อย่างน้อยโซนละหนึ่งแห่ง ซึ่ง กทม.มีทั้งหมด 6 โซน แต่ทั้งนี้ ยืนยันว่า เด็กส่วนใหญ่เมื่อติดเชื้อ มักไม่ค่อยมีอาการ เพราะฉะนั้นเด็กจึงสามารถเข้ามาอยู่ใน CI ได้ นอกจากนั้น ยังได้เตรียมในเรื่องของเตียงเด็กในโรงพยาบาล ไว้จำนวน 100 เตียง สำหรับเด็กที่อาการหนัก

 

ส่วนอีกกลุ่ม คือ แรงงานต่างด้าว ได้มีการเสนอสองทางเลือก คือ ให้ทำ Factory Isolation กรณีที่มีคนติดเชื้อจำนวนมาก ภายในแคมป์ก่อสร้าง ส่วนทางเลือกที่สอง คือขอความร่วมมือกับ กทม.ให้มี Community Isolation สำหรับแรงงานต่างด้าว เบื้องต้นจะมีหนึ่งแห่งก่อนใน กทม. หลังจากนั้น จึงจะมีการขยายไปเหมือนเด็ก คือโซนละหนึ่งแห่ง หากจำนวนแรงงานต่างด้าวติดเชื้อเพิ่มขึ้น ถือเป็นการอุดรอยรั่ว และเก็บบทเรียนจากโควิดระลอกที่ผ่านมา 
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ