โควิด-19

โควิดจบได้ ครึ่งปีหลัง หากประคอง "โอไมครอน" แบบไม่ประมาทและไม่กระจอก

โควิดจบได้ ครึ่งปีหลัง หากประคอง "โอไมครอน" แบบไม่ประมาทและไม่กระจอก

01 ม.ค. 2565

อย่าซ้ำรอยเดิม หมอธีระ เชื่อ "โควิด" จบได้แบบหายใจคล่องขึ้น ครึ่งปีหลัง หากประคอง "โอไมครอน" แบบไม่ประมาท และ ไม่กระจอก

(1 มกราคม 2565) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค อัปเดตสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า ด้วยความรู้ทั้งเรื่องโรค วัคซีน และยา รวมถึงความคุ้นเคยในการปฏิบัติตัว และการเปลี่ยนแปลงด้านสายพันธุ์ของไวรัส ประเมินว่า ครึ่งปีหลังน่าจะเป็นช่วงที่เราหายใจหายคอได้ดีขึ้น ภายใต้เงื่อนไขว่า ไม่เกิดปัญหาซ้ำรอยเดิม ไม่ว่าจะเป็นการระบาดหนัก ปัญหาด้านนโยบายควบคุมป้องกันโรค การจัดซื้อจัดหาอาวุธจำเป็นทั้งวัคซีน ยา หรืออุปกรณ์ป้องกันต่าง ๆ และที่สำคัญคือ ต้องตั้งอยู่บนความไม่ประมาท ยืนบนฐานความจริงว่า โควิดไม่กระจอก หรือไม่ใช่หวัดธรรมดา เพราะจะส่งผลต่อ harm perception ทั้งระดับนโยบาย ไปจนถึงระดับประชาชนในสังคม

 

โควิดจบได้ ครึ่งปีหลัง หากประคอง "โอไมครอน" แบบไม่ประมาทและไม่กระจอก

เรื่องเฉพาะหน้าที่ควรจัดการคือ ช่วยกันป้องกันไม่ให้ "โอไมครอน" หรือ "Omicron" ระบาดลุกลามเหมือนในยุโรป และอเมริกา เตรียมระบบการตรวจคัดกรองโรคให้เพียงพอ เพื่อจะได้ตอบสนองต่อความต้องการได้ ไม่ต้องรอต่อคิวข้ามคืน หรือติดเชื้อมีอาการหนักแต่ไม่ได้ตรวจ และปรับนโยบายเรื่องวัคซีนหลักให้สอดคล้องกับองค์ความรู้สากล และเป็นที่ยอมรับพร้อมไปกับการจัดบริการที่จำเป็นทั้งหมด ให้ทุกคน ทุกช่วงอายุ ได้เข้าถึงบริการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่ให้คำปรึกษา ฉีดวัคซีน ตรวจคัดกรองโรค ดูแลรักษาตั้งแต่ระยะติดเชื้อไปจนถึงภาวะอาการคงค้างหลังรักษาหาย (Long COVID)

 

 

ถ้าประคับประคองให้รอดพ้นระลอก "Omicron" ได้ พร้อมกับระบบจัดการนโยบาย และทรัพยากที่จำเป็นอยู่ตัว ถูกหลักการ เพียงพอ และทั่วถึง ทิศทางการ
ตอบสนองของทั้งโลกจะปรับเปลี่ยนไปจากเดิม และน่าจะหายใจคล่องขึ้นในครึ่งปีหลัง แต่ตอนนี้ ใส่หน้ากากนะครับ อยู่ห่างคนอื่น เลี่ยงที่แออัด สังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากผิดปกติให้รีบตรวจรักษา

โควิดจบได้ ครึ่งปีหลัง หากประคอง "โอไมครอน" แบบไม่ประมาทและไม่กระจอก