โควิด-19

ตั้งรับ "โอไมครอน" สธ.เตรียมเตียงกว่า แสนเตียง ยา 16 ล้านเม็ด เร่งฉีดเข็ม3

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยัน สธ.เตรียมรับมือ "โอไมครอน" ทั้งการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น และการรักษาพยาบาล เตียงว่างกว่า แสนเตียง ในการรองรับรวมถึงการสำรองยา กว่า16 ล้านเม็ด  เวชภัณฑ์ต่าง ๆ เตรียมรองรับไม่ต่ำกว่า 3 เดือน

นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสฉีดวัคซีนโควิด - 19 ครบ 100 ล้านโดส โดยไม่คำนึงถึงผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด -19 และควรเตรียมรับมือเชื้อ "โอไมครอน" ว่า การฉีดวัคซีนโควิด -19 ให้ถึงเป้าหมาย 100 ล้านโดส หรือประมาณ 50 ล้านคน
เป็นภารกิจที่ต้องดำเนินการแข่งกับเวลา เนื่องจากในสถานการณ์การระบาดต้องพยายามฉีดวัคซีนให้ได้เร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนมีภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นโดยเร็ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องปกติที่ทำได้ทั่วไป แต่ต้องอาศัยกำลังกาย กำลังใจและความทุ่มเทของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ที่ต้องทำไปพร้อมกับการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด -19 และโรคอื่น ๆ ด้วย การชื่นชมยินดีที่บุคลากรสาธารณสุข สามารถฉีดวัคซีนได้ตามเป้าหมาย ถือเป็นสิ่งดี ๆ ที่ผู้บริหารสามารถทำให้แก่บุคลากรผู้ปฏิบัติงานได้ และเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ทำงานอย่างทุ่มเทมาต่อเนื่องยาวนาน ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโควิค - 19 และเริ่มฉีดวัคซีนเข็มแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564
ตั้งรับ "โอไมครอน" สธ.เตรียมเตียงกว่า แสนเตียง ยา 16 ล้านเม็ด เร่งฉีดเข็ม3

รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวด้วยว่า สำหรับการเตรียมรับมือกับสถานการณ์ "โอไมครอน" ขณะนี้ได้มีการชะลอการเข้าประเทศในระบบ Test & Go เพื่อลดโอกาสเสี่ยงของผู้เดินทางที่อยู่ในระยะฟักตัวของโรค พร้อมกับเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ประชาชนมีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น รวมถึงจัดบริการวัคซีนเชิงรุกให้ประชากรทุกกลุ่มทั้งคนไทย และคนต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายพื้นที่เข้าถึงยาก ทั้งผู้ป่วยติดเตียง ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร แรงงานต่างด้าวตามแนวชายแดน เป็นต้น

ส่วนด้านการรักษาพยาบาล มีการเตรียมความพร้อม โดยทั้งประเทศมีเตียงรองรับผู้ป่วยโควิคมากกว่า 2 แสนเตียง ปัจจุบันใช้อยู่ประมาณ 3 หมื่นเตียง ยังมีเตียงเพียงพอรองรับหากเกิดการระบาด และมีการหารือกับภาคีเครือข่ายทุกสัปดาห์ให้เตรียมความพร้อมตลอดเวลา รวมถึงจัดระบบการดูแลรักษาที่บ้านและชุมชน เนื่องจากคนไข้ส่วนใหญ่มีอาการไม่มาก

สำหรับยารักษา ขณะนี้ยังมียาฟาวิพิราเวียร์คงเหลือมากกว่า 16.2 ล้านเม็ด และสามารถผลิตภายในประเทศได้แล้วโดยองค์การเภสัชกรรม และมียาเรมเดซิเวียร์ 4.5 หมื่นขวด รวมถึงได้สั่งซื้อและจองทั้งยาโมลนูพิราเวียร์ ยาแพกซ์โลวิดแล้ว พร้อมทั้งกำลังปรับปรุงแนวทางรักษาโรคให้เหมาะสมกับสถานการณ์ รวมถึงยาและอุปกรณ์อื่น มีสำรองไม่น้อยกว่า 3 เดือน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ