สหราชอาณาจักร พบป่วย "โอไมครอน" ต้องเข้าโรงพยาบาลแล้วรายแรก แนวโน้มเข้าโรงเพิ่มขึ้น หลังติดเชื้อวันเดียว พุ่งกว่า 3,100 คน สั่งยกคำเตือนขึ้นระดับที่ 4
แพทย์หญิงซูซาน ฮ็อพกิ้นส์ หัวหน้าที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขของกระทรวงสาธารณสุขแห่งสหราชอาณาจักร หรือ UK HSA เปิดเผยว่า สหราชอาณาจักรจะเผชิญการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์ "โอไมครอน" ที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลอย่างแน่นอน โดยล่าสุดขณะนี้ พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ "โอไมครอน" ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นรายแรกของสหราชอาณาจักรแล้ว สะท้อนถึงอาการของผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ "โอไมครอน" ถึงขั้นป่วยที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล แต่สิ่งสำคัญ คือจำนวนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ "โอไมครอน" ในสหราชอาณาจักรเมื่อ 24 ชั่วโมงผ่านมา พุ่งถึง 3,137 ราย ทำสถิติมากที่สุดในโลก และมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ หรือนับตั้งแต่พบการระบาดครั้งแรก เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2564 ในแอฟริกา อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ ยังไม่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนเสียชีวิต
นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร นายบอริส จอห์นสัน แถลงผ่านโทรทัศน์ทั่วประเทศในคืนที่ผ่านมาว่า ขณะนี้สหราชอาณาจักร กำลังเผชิญกับการระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 สายพันธุ์ "โอไมครอน" อย่างชัดเจน จึงขอให้ประชาชนในประเทศอังกฤษ ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ให้รีบเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 เข็มบูสเตอร์ หรือเข็มที่ 3 ภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ การฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ครบ 2 โดส ไม่พอที่จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันสายพันธุ์ "โอไมครอน" ได้ โดยก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีบอริส ได้ประกาศใช้ มาตรการบังคับการสวมใส่หน้ากากอนามัยในที่กลางแจ้ง และขอให้ประชาชนทำงานจากที่บ้านเป็นหลัก
ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขในสหราชอาณาจักร ประเมินตรงกันว่า ภายในสิ้นเดือน ธ.ค.นี้ หรือเร็วที่สุดภายในสุดสัปดาห์นี้ เชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 สายพันธุ์ "โอไมครอน" จะระบาดเป็นสายพันธุ์หลัก เข้ามาแทนที่สายพันธุ์เดลตา ขณะที่ในกรุงลอนดอน พบว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายใหม่ในสัดส่วน 33% เป็นสายพันธุ์ "โอไมครอน" ก่อนหน้านี้มีการประเมินว่า ภายในสิ้นปี 2564 สหราชอาณาจักรจะมีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ "โอไมครอน" สูงกว่า 1 ล้านคน
กระทรวงสาธารณสุข และความมั่นคงทางสังคม หรือ DHSC แห่งสหราชอาณาจักร ประกาศมาตรการใหม่ล่าสุด โดยให้ประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว ต้องตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 เป็นประจำทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจหาเชื้อสายพันธุ์ใดก็ตาม มีผลตั้งแต่วันอังคารที่ 14 ธันวาคมเป็นต้นไป ในกรณีตรวจพบติดเชื้อนั้น จะต้องถูกแยกกักตัวทันที นอกจากนี้ ระบบบริการสาธารณสุขแห่งสหราชอาณาจักร หรือ NHS เปิดเผยว่า มีมติปรับระดับคำเตือนการระบาดของโรคโควิด-19 จากเดิมที่ระดับ 3 ขึ้นเป็นระดับที่ 4 ซึ่งเป็นระดับรองจากระดับสูงสุดที่ระดับ 5 สาเหตุจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน โดยเฉพาะติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ "โอไมครอน" พุ่งอย่างก้าวกระโดดในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา หรือเมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 ธ.ค. โดยพุ่งทะยานขึ้นถึง 2 เท่าภายในวันดังกล่าว ในขณะนี้ อัตราการติดเชื้อเฉลี่ยรายวันในช่วง 7 วันติดต่อกันพุ่งทะยานถึงวันละกว่า 50,000 ราย ทำสถิติอัตราติดเชื้อเฉลี่ยรายวันมากที่สุดนับตั้งแต่มกราคมปีนี้ หรือในรอบเกือบ 1 ปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง