โควิด-19

ทุบสถิติ "โอไมครอน" บุกสหราชอาณาจักร วันเดียวเจอติดเชื้อ 633 ราย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กระทรวงสาธารณสุขสหราชอาณาจักร เผยข้อมูล "โอไมครอน" รุกหนัก วันเดียวเจอติดเชื้อถึง 633 ราย คาดยอดตายพุ่งหลักหมื่น เม.ย. 2022 หากไร้มาตรการเพิ่ม

(12 ธ.ค.2564) กระทรวงสาธารณสุขของสหราชอาณาจักร รายงานการพบผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศ เพิ่มขึ้น 54,073 คน และเสียชีวิตเพิ่มอีก 132 ราย  ทำให้ตอนนี้ สหราชอาณาจักรมีสถิติผู้ป่วยจากโรคดังกล่าว สะสมอย่างน้อย 10,771,444 คน และเสียชีวิตแล้ว 146,387 ราย ขณะที่ประมาณ 81% ของประชากร ได้รับวัคซีนครบแล้ว และ 89% ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม

 

ในส่วนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ "โอไมครอน" กระทรวงสาธารณสุขของสหราชอาณาจักร รายงานการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 633 คน ซึ่งเป็นตัวเลขรายวันสูงสุด นับตั้งแต่มีรายงานพบเชื้อโควิดสายพันธุ์ "โอไมครอน" ส่งผลให้สหราชอาณาจักร มีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าว เพิ่มสถิติสะสมเป็นอย่างน้อย 1,898 คน

 

ขณะเดียวกัน บรรดาผู้เชี่ยวชาญออกมาเตือนว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ "โอไมครอน" อาจส่งผลให้มีผู้ป่วยเสียชีวิต ระหว่าง 25,000-75,000 ราย ในสหราชอาณาจักร ภายในสิ้นเดือนเมษายน 2022 หากไม่มีการบังคับใช้มาตรการเพิ่มเติม

 

หน่วยงานหลักประกันสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร (UKHSA) คาดการณ์ว่า หากสายพันธุ์ "โอไมครอน" ยังคงระบาดในอัตราเดียวกับปัจจุบัน มันจะกลายเป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์หลัก ที่ครองสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 50 ของการติดเชื้อทั้งหมดในประเทศ ภายในกลางเดือนธันวาคม อีกทั้ง คาดการณ์ว่า หากแนวโน้มการระบาดในปัจจุบันยังคงไม่เปลี่ยนแปลง สหราชอาณาจักร จะรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัส สายพันธุ์ "โอไมครอน" เกิน 1 ล้านคน ภายในสิ้นเดือน ธ.ค.นี้
 

ทั้งนี้ นายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของสหราชอาณาจักร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เนื่องจากรัฐบาลพร้อมรับมือ และมีการติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา ว่าท้ายที่สุดแล้วเชื้อ "โอไมครอน" สามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทั้งที่กระตุ้นด้วยวัคซีนโควิด-19 และเกิดขึ้นโดยธรรมชาติหลังการติดเชื้อ และเชื้อ "โอไมครอน"
ก่อให้เกิดอาการป่วยหนักได้มากน้อยเพียงใด

 

อย่างไรก็ตาม การที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ประกาศบังคับใช้ "แผนสอง" หรือ "แผนบี" ทั้งการทำงานที่บ้าน การสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะหลายประเภท รวมถึงระบบขนส่งมวลชน และการแสดงหลักฐานยืนยันการฉีดวัคซีน ก่อนเข้าสู่สถานที่หลายแห่ง สร้างความไม่พอใจให้แก่ประชาชนจำนวนไม่น้อย

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ