ด่วน ไทยลุ้นเจอ "โอไมครอน" รายที่ 4 ชายไทยกลับจากต่างประเทศ

อัปเดต กระทรวงสาธารณสุข แถลงการณ์  ตรวจพบ ชายไทยที่คาดว่าจะติดโควิดสายพันธุ์ "โอไมครอน" รายล่าสุด ถ้าติดนับเป็นรายที่ 4 ของประเทศไทย

วันนี้ 9 ธ.ค.64 นพ.ศุภกิจ  ศิริลักษณ์  อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวระหว่างการแถลงความคืบหน้าสถานการณ์ "โอไมครอน" ว่า สำหรับหญิงไทย อายุ 36 และ 46 ปี  ที่ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ "โอไมครอน" นั้นกลับมาจากไปทำกิจกรรมทางศาสนาที่ประเทศไนจีเรีย เข้าประเทศไทยเมื่อราววันที่ 24 พ.ย.2564  ซึ่งทั้ง 2 รายได้ตรวจด้วยวิธี RT-PCR ที่ไนจีเรียในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2564 ก่อนเดินทางกลับมาที่ไทยเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2564 และเริ่มมีอาการ

เมื่อถึงประเทศไทยก็เข้าสู่ระบบการกักตัวทันที อย่างไรก็ตามทั้ง 2 คน เป็นผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน และไม่ได้มาจาก 63 ประเทศต้นทาง ซึ่งเมื่อตรวจ RT-PCR ในวันแรกที่มาถึงผลตรวจเป็นบวกทั้งคู่ จึงย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลจนครบกำหนดในวันที่ 5 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา

ไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อ "โอไมครอน" ในประเทศไทย 2 ราย 

• วันที่ 21 พ.ย.2564  ตรวจ RT-PCR ที่ประเทศไนจีเรียก่อนขึ้นเครื่อง ไม่พบเชื้อ
• วันที่ 23 พ.ย.2564  มีอาการไอ เจ็บคอเล็กน้อย
• วันที่ 24 พ.ย.2564  เดินทางถึงไทย fight QR803 เข้า ASQ ที่ รร.แห่งหนึ่ง (ที่เดียวกับผู้ติดเชื้ออีกคน) ผล RT-PCR เป็นบวก 
• วันที่ 25 พ.ย.-5 ธ.ค.2564 เริ่มป่วย ไอ เจ็บคอเล็กน้อย (รักษาตัวที่ รพ.แห่งหนึ่ง ได้รับยา "ฟาวิพิราเวียร์")
• วันที่ 26 พ.ย.2564 WHO ประกาศเรื่องสายพันธุ์ "โอไมครอน" 

ล่าสุดได้ตัวอย่างที่คาดว่าจะติดเชื้อโควิด "โอไมครอน" ชายไทยอายุ 41 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ UN เดินทางมาจากประเทศ Dr CONGO ในระบบ Test and Go ได้รับวัคซีน Astra Zeneca มาแล้ว 2 โดส โดยต้องรอผลยืนยันจากทางแล็บ 2 วัน ถึงจะรู้ว่าเป็นอย่างไร

อย่างไรก็ตาม แม้ยังไม่มีน้ำยาตรวจจำเพาะ แต่เราสามารถตรวจตรงตำแหน่งได้ อย่างที่เราตรวจพบรายแรกเป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศผ่านระบบ Test and go เพียงวันเดียวเราก็รู้ได้ว่าอาจเป็นโอไมครอน เพราะ ใช้วิธีตรวจประยุกต์ตรงตำแหน่งด้วยน้ำยาเดิม หากพบเป็นเดลต้า ก็คือเดลต้า แต่ถ้าไม่พบเดลต้า ก็ตรวจว่าเป็นเบต้ากับแอลฟา 2 สายพันธุ์ในตัวอย่างเดียวหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่ตรวจพบการติดเชื้อ "โอไมครอน" ในประเทศ มีแต่ติดมาจากนอกประเทศ