"โอไมครอน" หมอมนูญเผยมีฤทธิ์อ่อนช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่แบบธรรมชาติได้

นพ. มนูญ ลีเชวงวงศ์  ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน โดยระบุว่า 

เพียงช่วงเวลา 1 เดือนไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนแพร่ระบาดไปแล้วกว่า 50 ประเทศ รวมทั้งพบในนักท่องเที่ยวที่เข้าประเทศไทย 1 คนและคนไทย 2 คนเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ 

ข้อมูลเบื้องต้นพบว่าสายพันธุ์โอมิครอนแพร่ระบาดเร็วกว่าสายพันธุ์เดลต้า 2 เท่าขึ้นไป และยังมีความสามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันไม่ว่าจะเกิดจากเคยติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์อื่นมาก่อน หรือเกิดจากการฉีดวัคซีน ส่งผลให้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนได้อีก 

สำหรับความรุนแรงของสายพันธุ์โอมิครอน น้อยกว่าสายพันธุ์เดลต้า ข้อมูลจากประเทศแอฟริกาใต้ขณะนี้บ่งชี้ว่า คนผิวดำที่ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน มีอาการเบาๆไม่หนัก อาการเหมือนเป็นหวัด ระคายคอ มีน้ำมูก ไอเล็กน้อย จาม อ่อนเพลีย ปวดหัว ปวดตัว จมูกยังได้กลิ่น ลิ้นยังรู้รส ยังไม่มีรายงานการเสียชีวิต

ถ้าจากนี้ไปอีก 2-3 เดือน เชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนสามารถแพร่กระจายไปคนทุกเผ่าพันธุ์ คนผิวขาวและคนเอเชียทั่วโลกอย่างรวดเร็วแทนที่สายพันธุ์เดลต้าโดยปราศจากความรุนแรง อาจเป็นข่าวดี ทำให้เรามองสายพันธุ์โอมิครอนในแง่บวก เชื้อสายพันธุ์นี้กำลังผันตัวเองเปรียบเหมือนวัคซีนเชื้อเป็น อ่อนฤทธิ์ (live attenuated vaccine) แต่เพียงพอที่จะกระตุ้นการเกิดภูมิคุ้มกันให้กับมนุษยชาติ ทำให้คนทั้งโลก ไม่ว่าเคยหรือไม่เคยติดเชื้อมาก่อน ฉีดหรือไม่เคยฉีดวัคซีนมาแล้ว ติดเชื้อและเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ตามธรรมชาติต่อไวรัสโควิด ในที่สุดโรคโควิด-19 ก็จะยุติการแพร่ระบาด เปลี่ยนเป็นโรคประจำถิ่น 

ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ คนไทยไม่ควรตื่นตระหนกกับสายพันธุ์โอมิครอนมากเกินไป ขอให้ระมัดระวังตัวใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือ หลีกเลี่ยงสถานที่ปิด อากาศถ่ายเทไม่ดี มีคนอยู่กันแออัด และรีบฉีดวัคซีนกันให้ครบโดสทุกคน และขอให้เตรียมตัวเตรียมใจยอมรับว่า ในวันใดวันหนึ่ง ไม่ช้าก็เร็ว พวกเราเกือบทุกคนจะได้รับเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนนี้ และเมื่อนั้นคนไทยก็จะมีภูมิคุ้มกันหมู่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ โรคโควิด-19 จะยุติการแพร่ระบาดในที่สุด