โควิด-19

"โอไมครอน" ล่าสุด โมเดอร์นาประกาศพัฒนาวัคซีนสูตรใหม่เจาะจงกำราบอยู่หมัด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โมเดอร์นาประกาศกลยุทธ์การรับมือไวรัส SARS-CoV2 สายพันธุ์ "โอไมครอน" สายพันธุ์ล่าสุดที่ทางองค์การอนามัยโลกจัดให้อยู่ในกลุ่มไวรัสสายพันธุ์ที่น่ากังวล พัฒนาวัคซีนสูตรใหม่เจาะจงกำราบอยู่หมัด

 

เกาะติด "โอไมครอน" Omicron โควิดโอไมครอน โควิดสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 สายพันธุ์ล่าสุดที่ทาง องค์การอนามัยโลก (WHO) จัดให้อยู่ในกลุ่มไวรัสสายพันธุ์ที่น่ากังวล ล่าสุด บริษัท โมเดอร์นา ได้ประกาศความคืบหน้าเกี่ยวกับกลยุทธ์ที่ทางบริษัทโมเดอร์นาจะใช้ในการจัดการรับมือกับไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน (B.1.1.529) อันเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวลที่เพิ่งอุบัติใหม่

 

 

 

 

ไวรัสสายพันธุ์ "โอไมครอน" มีการกลายพันธุ์เช่นเดียวกับที่พบในสายพันธุ์เดลตาที่เชื่อว่ามีส่วนเพิ่มความสามารถในการติดต่อแพร่กระจายของเชื้อ

นอกจากนี้ แล้วยังพบการกลายพันธุ์เช่นเดียวกับที่พบในสายพันธุ์เบตาและเดลตา ที่เชื่อว่ามีส่วนส่งเสริมความสามารถในการหลบหนีภูมิคุ้มกันของตัวเชื้อ เมื่อการกลายพันธุ์ทั้งสองประเภทนี้เกิดขึ้นพร้อมกัน จะทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดการเร่งของอัตราการลดลงของระดับภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ และภูมิคุ้มกันที่ได้รับจากการฉีดวัคซีน

 

 

 

ขณะนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่า วัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นา สูตร mRNA-1273 ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นสำหรับประชากรส่วนใหญ่นั้นเป็นขนาด 50 ไมโครกรัม ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ของการกระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันที่ลดลงเท่านั้น ซึ่งทางบริษัทโมเดอร์นากําลังดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อทดสอบความสามารถของปริมาณวัคซีนที่ใช้ในปัจจุบันต่อการยับยั้งเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน และคาดว่าจะมีข้อมูลออกมาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

 

 

 

บริษัทโมเดอร์นาได้พัฒนากลยุทธ์ที่ครอบคลุมเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสายพันธุ์ที่น่ากังวลชนิดใหม่ ๆ ที่อาจอุบัติขึ้นมา โดยมีแนวทางการรับมือสามระดับ กรณีหากพบว่าวัคซีนเข็มกระตุ้นสูตร mRNA-1273 ขนาด 50 ไมโครกรัม ไม่สามารถกระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันในระดับที่เพียงพอต่อการยับยั้งเชื้อสายพันธุ์ "โอไมครอน" ได้

 

 

 

 

กลยุทธ์ที่หนึ่ง

 

  • บริษัทโมเดอร์นาอยู่ในระหว่างการดำเนินการทดสอบประสิทธิภาพวัคซีนเข็มกระตุ้นสูตร mRNA-1273 ในขนาด 100 ไมโครกรัม ซึ่งเป็นการวิจัยในกลุ่มอาสาสมัครผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดี โดยในขณะนี้ทางบริษัทโมเดอร์นาได้เสร็จสิ้นขั้นตอนการฉีดวัคซีนในอาสาสมัครผู้เข้าร่วมทั้งสิ้น 306 คน เพื่อศึกษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของวัคซีนเข็มกระตุ้นขนาด 100 ไมโครกรัม นี้เรียบร้อยแล้ว

 

 

  • อนึ่ง สำหรับวัคซีน mRNA-1273 ขนาด 100 ไมโครกรัม ที่ใช้เป็นเข็มกระตุ้น ได้มีการศึกษามาก่อนหน้านี้แล้วโดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (National Institute of Health, NIH) ของสหรัฐอเมริกา และพบว่ามีประสิทธิภาพในการกระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันในการยับยั้งเชื้อต่อไวรัส SARS-CoV2 สายพันธุ์ต่าง ๆ ที่มีการแพร่ระบาดมาก่อนหน้านี้ในระดับที่สูงที่สุด ทางบริษัทโมเดอร์นาเองกำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบซีรั่มจากเลือดของอาสาสมัครผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นขนาด 100 ไมโครกรัมอย่างเร่งด่วน เพื่อเป็นการตรวจสอบว่าจะมีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อและป้องกันการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนได้หรือไม่

 

 

 

กลยุทธ์ที่สอง

 

  • ทางบริษัทโมเดอร์นากําลังอยู่ระหว่างการศึกษาวัคซีนเข็มกระตุ้นชนิดผสมสองสูตรที่บริษัทพัฒนาขึ้นในขั้นตอนการวิจัยทางคลินิก โดยวัคซีนสูตรผสมดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับลักษณะการกลายพันธุ์ที่มีความจำเพาะเจาะจงดังเช่นที่ปรากฏในสายพันธุ์ "โอไมครอน"

 

 

  • วัคซีนสูตรผสมชนิดแรก คือ วัคซีน mRNA-1273.211 ที่ได้มีการรวบรวมเอาการกลายพันธุ์หลายตำแหน่งที่ในไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนที่ปรากฏอยู่ในสายพันธุ์เบต้าเช่นกัน ในขณะนี้ทางบริษัทโมเดอร์นาได้เสร็จสิ้นขั้นตอนการฉีดวัคซีน mRNA-1273.211 ในขนาด 50 ไมโครกรัม (จำนวนอาสาสมัครที่ 300 คน) และ ขนาด 100 ไมโครกรัม (จำนวนอาสาสมัครที่ 584 คน) เรียบร้อยแล้ว

 

 

  • วัคซีนสูตรผสมชนิดที่สอง คือ วัคซีน mRNA-1273.213 อันเป็นวัคซีนที่ได้รวบรวมเอาการกลายพันธุ์หลาย ๆ ตำแหน่งในไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน ที่พบในสายพันธุ์เบตา และเดลตาเช่นเดียวกัน ทางบริษัทโมเดอร์นาเองได้เสร็จสิ้นขั้นตอนการฉีดวัคซีนสูตรผสมที่สองนี้ในขนาด 100 ไมโครกรัม (จำนวนอาสาสมัครที่ 584 คน) เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการวางแผนที่จะทดสอบวัคซีนดังกล่าวที่ขนาด 50 ไมโครกรัม ในอาสาสมัครจำนวน 584 คน เป็นลำดับต่อไป โดยทางบริษัทจะเร่งดำเนินการทดสอบซีรั่มจากเลือดของอาสาสมัครจากโครงการวิจัยวัคซีนเข็มกระตุ้นที่เป็นสูตรผสมนี้ทั้งในส่วนที่เสร็จสิ้นแล้วและส่วนที่กำลังดำเนินการอยู่เพื่อทดสอบว่าวัคซีนสูตรผสมทั้งสองชนิดนี้จะมีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อและป้องกันการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนได้หรือไม่

 

 

 

กลยุทธ์ที่สาม

 

  • ทางบริษัทโมเดอร์นาจะรีบดำเนินการพัฒนาวัคซีนสูตรใหม่ที่มีความจำเพาะเจาะจงต่อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน (วัคซีนสูตร mRNA-1273.529) โดยด่วน ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานของบริษัทโมเดอร์น่า ที่สามารถผลิตวัคซีนสูตรใหม่ขึ้นมาเพื่อรับมือกับไวรัสกลุ่มสายพันธุ์ที่น่ากังวลที่มีการอุบัติใหม่ขึ้นมาได้ในเวลาไม่นาน
  • สำหรับในช่วงปี 2564 ที่ผ่านมาบริษัทโมเดอร์น่าได้มีการพัฒนาวัคซีนเข็มกระตุ้นที่มีความจำเพาะต่อไวรัสทั้งสายพันธุ์เบต้าและเดลต้ามาแล้ว ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามารถของบริษัทโมเดอร์น่าในการวิจัยและพัฒนาวัคซีนสูตรใหม่สำหรับใช้ในการทดสอบทางคลินิกให้แล้วเสร็จได้ภายในระยะเวลา 60 - 90 วัน

 

 

 

“ขณะนี้ เรามีกลยุทธ์ทั้งสามประการที่กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการไปพร้อมกัน อันได้แก่ การทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีนสูตรมาตรฐาน mRNA-1273 สำหรับการเป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นขนาด 100 ไมโครกรัม ประการที่สองเรากำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาวัคซีนสูตรผสมทั้งสองชนิดที่พัฒนาขึ้นมาและอยู่ในขั้นตอนการวิจัยทางคลินิก โดยวัคซีนดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสดังตัวอย่างที่พบในสายพันธุ์โอไมครอน เป็นต้น และคาดการณ์ว่าจะมีข้อมูลออกมาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และประการที่สาม เรากําลังพัฒนาวัคซีนสูตรใหม่ mRNA-1273.529 ซึ่งจะเป็นสูตรที่มีความจำเพาะเจาะจงต่อสายพันธุ์โอไมครอน” Stéphane Bancel Chief Executive Officer ของบริษัทโมเดอร์นา กล่าว

 

 

โอไมครอน, Omicron, โควิดโอไมครอน, โควิดสายพันธุ์ใหม่, B.1.1.529

 

 

ข้อมูล : ศูนย์ข้อมูลราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ