เช็คอัปเดต "วัคซีนโควิด" สูตรใช้ในประเทศไทย เตรียมชงเพิ่มสูตรใหม่ Sinovac+Pfizer เสนอ ศบค.สัปดาห์นี้- Az-Pf ใช้แทน Az 2 เข็ม
ภายหลังที่ประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2564 ที่ผ่านมา มีมติออกข้อแนะนำการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในกรณีต่าง ๆ เพื่อเสนอต่อที่ประชุมอีโอซี กระทรวงสาธารณสุข พิจารณา ก่อนเสนอขออนุมัติจากที่ประชุม ศบค. ในสัปดาห์นี้ โดยสรุปคำแนะนำได้ ดังนี้
1. การฉีดวัคซีนจากผู้ผลิตเดียวกัน ยังใช้คำแนะนำเดิม
- ไฟเซอร์ 2 เข็ม ระยะห่าง 3-4 สัปดาห์
- แอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม ระยะห่าง 8-12 สัปดาห์
- ซิโนฟาร์ม 2 เข็ม ระยะห่าง 3-4 สัปดาห์
2. การฉีดวัคซีนสูตรไขว้ มีทั้งคงคำแนะนำ และเพิ่มสูตรใหม่
- ซิโนแวค + แอสตร้าเซนเนก้า ระยะห่าง 3-4 สัปดาห์ ในผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป, โรคประจำตัว 7 โรค, หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป
- แอสตร้าเซนเนก้า + ไฟเซอร์ ระยะห่าง 4-12 สัปดาห์ ใช้ทดแทนสูตรแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม ในกรณีที่มีเหตุผลความจำเป็นอื่น ๆ
- ซิโนแวค + ไฟเซอร์ เป็นสูตรใหม่ที่เพิ่มขึ้นมา ใช้ในผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป, โรคประจำตัว 7 โรค, หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป
3. วัคซีนเข็มกระตุ้น เข็ม 3
- ซิโนแวค 2 เข็ม + แอสตร้าเซนเนก้า ฉีดหลังจากที่ได้รับเข็มที่ 2 เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ขึ้นไป
- ซิโนแวค 2 เข็ม + ไฟเซอร์ ฉีดหลังจากที่ได้รับเข็มที่ 2 เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ขึ้นไป
- แอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม + ไฟเซอร์ ฉีดหลังจากที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 เป็นเวลา 6 เดือนขึ้นไป สำหรับผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว 7 โรค, หญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ หรือผู้ที่เคยได้รับแอสตร้าเซนเนก้ามาแล้ว 2 เข็ม
4. วัคซีนไฟเซอร์ในเด็กอายุ 12-18 ปี
- กลุ่มเด็ก และวัยรุ่นหญิงชาย มีสุขภาพดี และมีภาวะ 7 โรคเรื้อรัง ได้รับไฟเซอร์ 2 เข็ม ระยะห่าง 3-4 สัปดาห์
- เด็กชายอายุ 12-16 ปี มีสุขภาพดี แนะนำให้รับไฟเซอร์ 1 เข็ม ส่วนการให้วัคซีนเข็มที่ 2 ให้รอการพิจารณาอาการไม่พึงประสงค์ จะมีการประชุมหาข้อสรุปอีกครั้งในวันที่ 20 ตุลาคม
นอกจากนี้ ยังขอให้คนที่ได้รับวัคซีน งดการออกกำลังกาย กิจกรรมหนัก หลังได้รับวัคซีนเป็นเวลา 1 สัปดาห์ และสังเกตอาการฉีดใน 7 วันว่า หากมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวกควรรีบไปพบแพทย์
ขณะที่ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รายงานการฉีดวัคซีนของไทย 56,656,247 โดส (ข้อมูล 6 ต.ค.64)
- เข็มแรก 33,505,887 โดส (50.6% ของประชากร)
- เข็มสอง 21,595,916 โดส (32.6% ของประชากร)
- เข็มสาม 1,554,444 โดส (2.3% ของประชากร)
จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนมากที่สุด มีดังนี้
- กทม.ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 คิดเป็น 101% เข็มที่ 2 คิดเป็น 54.8% เข็มที่ 3 คิดเป็น 4.8%
- ปทุมธานี เข็มที่ 1 คิดเป็น 64.3% เข็มที่ 2 คิดเป็น 45.4% เข็มที่ 3 คิดเป็น 1.5%
- สมุทรปราการ เข็มที่ 1 คิดเป็น 67.3% เข็มที่ 2 คิดเป็น 42.7% เข็มที่ 3 คิดเป็น 1.9%
- สมุทรสาคร เข็มที่ 1 คิดเป็น 64% เข็มที่ 2 คิดเป็น 42.8% เข็มที่ 3 คิดเป็น 4.5%
- นนทบุรี เข็มที่ 1 คิดเป็น 51.5% เข็มที่ 2 คิดเป็น 41.2% เข็มที่ 3 คิดเป็น 4%
- นครปฐม เข็มที่ 1 คิดเป็น 42.1% เข็มที่ 2 คิดเป็น 29.8% เข็มที่ 3 คิดเป็น 1.9%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง