สปสช. แนะใช้เงิน กปท. สนับสนุน "ศูนย์พักคอย" ดูแลผู้ติดเชื้อในชุมชน

วันที่ 1 กันยายน 2564 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แนะใช้ กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น (กปท.) สนับสนุนกิจกรรม "ศูนย์พักคอย" เพื่อดูแลผู้ติดเชื้อ "โควิด-19" ในชุมชนได้ เผยเตรียมตัวอย่างโครงการให้แต่ละเขตใน กทม.ไว้เรียบร้อยแล้ว หากมีกลุ่มประชาชนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนใจและผู้อำนวยการเขตอนุมัติก็สามารถนำเงินไปใช้ได้เลย 

• คลายล็อกดาวน์ เปิด "หาดบางแสน" วันแรก ส่อง 5 มาตรการ ห้ามอะไรบ้าง
• เช็กเลย 3 ขั้นตอน ใช้ "ออกซิเจน" ที่บ้านอย่างไรให้ปลอดภัย
• รฟท. เปิดเดินขบวนรถท้องถิ่นสายใต้เพิ่ม 2 ขบวน รับมาตรการ "คลายล็อกดาวน์"

นพ.อภิชาติ รอดสม รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงแนวทางการนำเงินจากกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น (กปท.) มาใช้ในการดูแลผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ว่า กองทุน กปท. เป็น  Matching Fund muj ที่ สปสช.จัดสรรให้แก่ท้องถิ่นต่าง ๆ โดยแต่ละท้องถิ่นจะสมทบเงินเข้าไปในกองทุนนี้ด้วยตามศักยภาพและขนาดของท้องถิ่น ซึ่งในช่วงที่จำนวนคนไข้ล้นโรงพยาบาล ต้องนำแนวทางการดูแลรักษาที่บ้าน (Home Isolation) มาใช้แล้ว หลายพื้นที่ก็มีการจัดตั้ง Community Isolation, ศูนย์พักคอย เพื่อใช้ดูแลผู้ป่วยที่ไม่สะดวกในการกักตัวที่บ้านหรือใช้เป็นที่พักเพื่อรอส่งตัวเข้าโรงพยาบาลต่อไป 

นพ.อภิชาติ กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนนี้แต่ละท้องถิ่นสามารถนำเงินจาก กองทุน กปท. มาใช้สนับสนุนในด้านต่าง ๆ เช่น การปรับปรุงสภาพแวดล้อมของศูนย์พักคอย การบริหารจัดการขยะติดเชื้อ การจัดหาหน้ากากอนามัย และอุปกรณ์ป้องกันอื่น ๆ เป็นต้น 

ซึ่งในส่วนของ กทม.นั้น ในแต่ละเขตจะมี กองทุน กปท. เป็นของตัวเอง สามารถบริหารจัดการงบประมาณได้โดยไม่ต้องรวมศูนย์ที่ส่วนกลาง ดังนั้นหากชุมชนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความต้องการนำเงินส่วนนี้ไปใช้ในการดูแล ป้องกันผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ก็สามารถเขียนโครงการเสนอคณะอนุกรรมการระดับเขตพิจารณาได้ ซึ่งทาง สปสช. ก็ได้จัดทำตัวอย่างโครงการที่สามารถนำเงินไปใช้ได้ กระจายไปยังเขตต่าง ๆ แล้ว หากมีผู้ต้องการนำแนวทางโครงการเหล่านี้ไปใช้ และผู้อำนวยการเขตอนุมัติ ก็สามารถนำเงินไปใช้ได้เลย 

นพ.อภิชาติ กล่าวอีกว่า การร่วมมือร่วมใจของชุมชนในการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นเรื่องสำคัญ หลาย ๆ พื้นที่ใช้โมเดลบ้าน วัด โรงเรียน (บวร) ในการจัดตั้ง ศูนย์พักคอย หลายแห่งทั่วประเทศ เฉพาะใน กทม.ก็มีมากกว่า 10 วัด ล่าสุดคือที่วัดหงส์รัตนารามวรวิหาร ซึ่งลักษณะพื้นที่คือมีชุมชนโดยรอบ อยู่กันหนาแน่น ประมาณ 700 หลังคาเรือน ก็ได้เปิดศูนย์พักคอยเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อทั้งในส่วนของภิกษุสงฆ์และประชาชนทั่วไป ภายใต้การสนับสนุนจากชุมชน กระทรวงสาธารณสุข สปสช. กทม. และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยในอาคารของวัดรองรับพระสงฆ์ที่ติดเชื้อ และอาคารของโรงเรียนวัดหงส์ฯในการรองรับประชาชนทั่วไป 

"ผมอยากเห็นแบบนี้ทุกวัด โมเดลลักษณะนี้ ทางวัดและชุมชนโดยรอบต้องทราบว่ากำลังทำอะไรและเห็นพ้องต้องกัน บางพื้นที่วัดมีศักยภาพแต่ชุมชนไม่เห็นด้วย ซึ่งอันที่จริงแล้วการมี ศูนย์พักคอย ในชุมชนไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ในทางกลับกันถ้าไม่สร้างศูนย์พักคอยแล้วปล่อยให้ผู้ติดเชื้ออยู่ในชุมชนจะน่ากลัวกว่า นอกจากนี้แล้วสถานที่ตั้งก็ต้องแยกเฉพาะ มีห้องน้ำอำนวยความสะดวกรองรับคนจำนวนมากด้วย"