หลังจากที่เมื่อวานนี้(30 ส.ค.2564) มีรายงานว่า มีการพบเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์เก่งมากที่สุด ซึ่งพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ และตั้งชื่อเรียกว่า C.1.2 เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ในหลายประเทศ ทั้ง อังกฤษ จีน สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก มอริเชียสนิวซีแลนด์ โปรตุเกส และสวิตเซอร์แลนด์แล้ว
ซึ่งทีมผู้เชี่ยวชาญจากแอฟริกาใต้ ก็ชี้ว่า เชื้อโควิดกลายพันธุ์ C.1.2 อาจทำให้เกิดการแพร่กระจายติดเชื้อง่ายกว่าเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์อื่น ๆ ที่ผ่านมา และอาจมีความสามารถในการหลบหลีกภูมิคุ้มกันในร่างกายมนุษย์จากการฉีดวัคซีนได้
จากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ พบว่า เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ C.1.2 เป็นเชื้อโควิด-19 ที่กลายพันธุ์มาจากสายพันธุ์ C.1 ซึ่งพบในการระบาดระลอกแรก และเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ C.1.2 นับเป็นสายพันธุ์ที่เกิดการกลายพันธุ์เก่ง บ่อยครั้งมากที่สุดกว่าเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์อื่น ๆ เพราะได้เกิดการกลายพันธุ์บ่อยในอัตราสูงถึง 41.8 ครั้งต่อปี หรือเกือบสองเท่าของเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ที่น่ากังวลที่พบในขณะนี้
ขณะที่ ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยาของไทย โพสต์เฟซบุ๊ค ยกข้อความจากทวิตเตอร์ของหัวหน้าทีมระบาดวิทยาของ WHO ระบุว่า C.1.2 พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ ตั้งแต่เดือน พ.ค.มีการกลายพันธุ์หลายตำแหน่งจริงครับ ทาง WHO ก็เริ่มจับตามองว่า ไวรัสตัวนี้จะกระจายตัวไว จนต้องเป็นสายพันธุ์น่ากังวลตัวใหม่หรือไม่ ผ่านมา 4 เดือน ข้อมูลพบว่า ไวรัสตัวนี้พบได้ไม่มาก และ อาจจะโดนเดลต้าเจ้าถิ่น จัดการจนไปต่อไม่ได้แล้ว ไวรัสเปลี่ยนแปลงหลายตำแหน่งไม่ได้น่ากลัวเสมอไป มันเป็นธรรมชาติของไวรัสครับ
ทวิตนี้เป็นของ Dr. Maria Van Kerkhove หัวหน้าทีมระบาดวิทยาของ WHO คนที่น่าจะมีข้อมูลของไวรัสตัวนี้มากกว่านักข่าวทุกสำนักครับ
ที่มา : Anan Jongkaewwattana
ข่าวที่เกี่ยวข้อง