โควิด-19

เทียบ "วัคซีนโควิด" 4 ชนิด ไฟเซอร์เหนือกว่าซิโนฟาร์ม แอสตร้าฯกันตายสูงสุด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เผยผลวิจัยเปรียบเทียบประสิทธิผล "วัคซีนโควิด" 4 ชนิด ประกอบด้วย ไฟเซอร์ แอสตร้าเซนเนก้า สปุตนิก ไฟว์ และ ซิโนฟาร์ม ชี้ ฉีดวัคซีน ดีกว่าไม่ฉีดอย่างชัดเจน

นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา เผยผลวิจัยเปรียบเทียบประสิทธิผล "วัคซีนโควิด" 4 ชนิด ประกอบด้วย ไฟเซอร์ (Pfizer) แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) สปุตนิก ไฟว์ (Sputnik V) และ ซิโนฟาร์ม (Sinopharm) โดยเป็นรายงานการศึกษาที่ประเทศบาห์เรน ชี้ ฉีดวัคซีน ดีกว่าไม่ฉีดอย่างชัดเจน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

จากการที่พบไวรัสกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ต่างๆหลากหลาย ทำให้เกิดคำถามถึงประสิทธิผลของ วัคซีน ซึ่งได้รับการพัฒนาไว้สำหรับต่อสู้ไวรัสสายพันธุ์เดิมจากอู่ฮั่น ว่าจะมีประสิทธิผลในโลกแห่งความเป็นจริง (Real world) เมื่อพบกับไวรัสกลายพันธุ์ เช่น สายพันธุ์เดลตา มากน้อยอย่างไร ใน 4 มิติ คือ 

 

1) การติดเชื้อ

2) ป่วยมีอาการ จนต้องนอนโรงพยาบาล

3) ป่วยหนักเข้าไอซียู

4) การเสียชีวิต

 

รายงานการศึกษา ที่ทยอยออกมาเป็นระยะยังตอบคำถามได้ไม่เต็มที่นัก เนื่องจากมักจะเป็นรายงานการศึกษาของวัคซีนแต่ละชนิด ว่ามีประสิทธิผล (Effectiveness) ในโลกแห่งความเป็นจริง ที่ประเทศใดประเทศหนึ่ง ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง และไวรัสชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้น

 

รายงานการศึกษาครั้งนี้ที่บาห์เรน ได้แก้ปัญหาจุดอ่อนดังกล่าวโดยศึกษาเปรียบเทียบการฉีดวัคซีนถึง 4 ชนิด ในประชากรของบาห์เรนในห้วงเวลาเดียวกัน ที่มีไวรัสชนิดเดียวกัน และดูในกลุ่มประชากรที่อายุใกล้เคียงกัน

 

ผลที่น่าสนใจคือ กลุ่มที่ ฉีดวัคซีน ไม่ว่าจะเป็นชนิดใดใน 4 ชนิดล้วนมีประโยชน์หรือมีประสิทธิผลในทุกมิติเหนือกว่ากลุ่มที่ไม่ฉีดวัคซีนอย่างชัดเจน

 

ส่วนการเปรียบเทียบในรายละเอียดระหว่าง 4 วัคซีนกันเอง จากวัคซีน 2 ชนิดที่พอจะเปรียบเทียบกันได้ เพราะมีจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนและช่วงเวลาที่เหมาะสมคือ ซิโนฟาร์ม และ ไฟเซอร์ พบว่า วัคซีนของ ไฟเซอร์ มีประสิทธิผลเหนือกว่า ซิโนฟาร์ม โดยมีรายละเอียดดังนี้

 

 

1) การเก็บสถิติรวบรวมที่ประเทศบาห์เรน ซึ่งมีประชากร 1.5 ล้านคนและมีการฉีดวัคซีนไป 1 ล้านคน

 

2) ติดตามการฉีดวัคซีน 4 ชนิด ได้แก่ ไฟเซอร์ (Pfizer) แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) สปุตนิก ไฟว์ (Sputnik V) และ ซิโนฟาร์ม (Sinopharm)

 

โดยการติดตามนั้นจะดูผลลัพธ์ 4 มิติด้วยกัน ได้แก่ อัตราการติดเชื้อ , ป่วยมีอาการจนต้องนอน รพ. , ป่วยอาการหนักต้องเข้าไอซียู , อัตราการเสียชีวิต พบว่าในช่วงวันที่ 9 ธันวาคม 2563 ถึง 17 กรกฎาคม 2564 มีผู้ได้รับวัคซีน ซิโนฟาร์ม 569,000 54 ราย , สปุตนิก ไฟว์ 184,526 ราย , แอสตร้าเซนเนก้า 73,765 ราย , ไฟเซอร์ 169,058 ราย

 

พบว่าอายุเฉลี่ยในแต่ละกลุ่มวัคซีนใกล้เคียงกันคือ 35-39 ปี ประชากรที่รับวัคซีนส่วนใหญ่เป็นผู้ชายและไวรัสสายพันธุ์ที่เด่นเป็นหลัก ได้แก่ สายพันธุ์เดลตา โดยจากการติดตามข้อมูลพบว่า มีผู้ติดเชื้อโดยวิธีทดสอบ PCR 180,840 ราย , มีอาการต้องเข้า รพ. 13,105 ราย , อาการหนักเข้าไอซียู 1,636 ราย และเสียชีวิตทั้งสิ้น 1,030 ราย

 

เมื่อดูสถิติการเสียชีวิตพบว่า กลุ่มที่ฉีดวัคซีนทุกชนิด มีอัตราการเสียชีวิตน้อยกว่ากลุ่มไม่ฉีดวัคซีนอย่างมีนัยสำคัญ แต่ถ้าดูอัตราการเสียชีวิตในกลุ่มฉีดวัคซีนของ

 

  • Sinopharm 0.46%
  • Pfizer 0.15%
  • AstraZeneca 0.03%

 

ในขณะเดียวกัน เมื่อดูสถิติตัวอื่นทั้งเรื่องการติดเชื้อ การต้องนอนโรงพยาบาล และการป่วยหนักเข้าไอซียูก็มีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกัน

 

การศึกษาครั้งนี้มีข้อจำกัด

 

1) เรื่องจำนวนผู้ฉีดวัคซีนแต่ละชนิดไม่เท่ากัน แต่แก้ไขโดยการปรับเป็นสัดส่วนและสถิติทางระบาดวิทยาเพื่อลดข้อจำกัดดังกล่าว

 

2) เริ่มฉีดวัคซีนแต่ละชนิดไม่พร้อมกัน ได้แก้ไขโดยการตัดกลุ่มประชากรที่ฉีดวัคซีนบางชนิดเร็วเกินไปออก เทียบกันเฉพาะในช่วงเวลาที่ฉีดวัคซีนใกล้เคียงกัน และพบไวรัสเดลต้าเหมือนกัน

 

รายงานนี้จึงสรุปได้ว่า

 

1) วัคซีนทั้ง 4 ชนิดได้ผลดีเหนือกว่ากลุ่มไม่ฉีดวัคซีนในทุกมิติ ทั้งอัตราการติดเชื้อ การป่วยเข้าโรงพยาบาล การป่วยหนักเข้าไอซียู และการเสียชีวิต

 

2) วัคซีนคู่ที่เทียบกันได้ทางสถิติคือ Pfizer กับ Sinopharm พบว่า Pfizer มีประสิทธิผลเหนือกว่าทั้ง 4 มิติ

 

3) วัคซีนของ AstraZeneca ดูจะมีบางมิติที่เหนือกว่า Pfizer และบางมิติที่พอๆกัน แต่การเปรียบเทียบยังทำได้ไม่ชัดเจน

 

CR เฟซบุ๊ก นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ