(คลิป) แชร์สนั่น แก๊งโจ๋เถื่อนปล้นกลางปั๊ม
หนุ่มโพสต์เตือนภัย จอดรถอยู่ในปั๊มน้ำมันย่านสะแกงาม ถูกแก๊งวัยรุ่นรุมทำร้าย-ชิงทรัพย์หนี ตร.ไล่เช็กวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนี ก่อนขอศาลอนุมัติหมายจับ
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Jack Woraphong Kanyathuean” ได้โพสต์ภาพวงจรปิดขณะชาย 4 คน ขี่รถจักรยนต์ 2 คัน ถืออาวุธมีดเข้ามาทำร้ายกลุ่มชายวัยรุ่นที่นั่งอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง พร้อมเขียนข้อความระบุว่า
“ฝากแชร์ด้วยนะครับ คลิปนี้ที่ปั๊มน้ำมัน ป.ต.ท. สะแกงาม ซอย 14 เขตบางขุนเทียน ถนนพระราม 2 เผื่อเป็นภัยต่อสังคม ตอนนี้ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้เลย อย่าปล่อยให้มันลอยนวล เผื่อคนอื่นอาจเจอเหมือนพวกผม”
โดยผู้โพสต์คือนายวรพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ที่เดินทางมาให้ปากคำกับตำรวจเพิ่มเติมที่ สน.แสมดำ โดยระบุว่า วันเกิดเหตุเป็นเวลา 03.00 น.ของวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ช่วงนั้นตนเองพร้อมเพื่อน 5 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาจากร้านอาหาร เพื่อแวะเติมน้ำมันก่อนเข้าที่พัก ซึ่งจังหวะนั้นเพื่อน 2 คนได้เข้าห้องน้ำ ตนเองกับเพื่อนอีก 2 คนจึงนั่งรอบริเวณด้านหน้าห้องน้ำของปั๊ม สักพักก็มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 4 คน ขับขี่รถจักยานยนต์ตรงเข้ามาหาและถามว่า “มึงทำร้ายเพื่อนกูใช่ไหม” ก่อนที่จะกระชากตนเองจนตกจากรถจักรยานยนต์และเข้าชกต่อยตนกับเพื่อน และขโมยกระเป๋าตังค์กับโทรศัพท์ไปด้วย
นายวรพงศ์ ยืนยันว่า ไม่เคยรู้จักกับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาก่อน จึงไม่รู้ว่ามาจากสาเหตุใด แต่ก็เชื่อว่าอาจจะเป็นการทำร้ายผิดตัว ซึ่งตอนนี้รู้สึกไม่ปลอดภัย และระวังตัวมากขึ้นเวลาที่จะออกไปไหนช่วงกลางคืน เพราะกลัวเกิดเหตุซ้ำ
ด้าน พันตำรวจเอกอำนาจ หาญชนะ ผกก.สน.แสมดำ ระบุว่า คดีนี้มีผู้เสียหาย 3 คนที่ถูกทำร้ายร่างกาย และปล้นเอาทรัพย์สินกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ และเหล้าไปด้วย เบื้องต้นแจ้ง 3 ข้อหากลุ่มผู้ก่อเหตุคือ ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ และใช้ยานพาหนะ ,ร่วมกันทำร้ายร่างกาย และ พาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนจะการแจ้งข้อหาเพิ่มหรือไม่นั้นจะต้องดูอีกครั้ง
โดยตั้งข้อสงสัยในหลายประเด็น ทั้งอาจจะเข้าใจผิดว่าเป็นกลุ่มคู่อริ เนื่องจากมีคำพูดของผู้ก่อเหตุที่ว่า “มึงทำเพื่อนกูเหรอ” หรืออาจจะแกล้งทำเป็นทำร้ายร่างกาย แต่จริงๆ ประสงค์ต่อทรัพย์สิน หรืออาจจะคึกคะนองต้องการแสดงศักยภาพของตัวเอง
ขณะนี้อยู่ระหว่างพนักงานสอบสวนสอบปากคำเพิ่มเติม และรอข้อมูลฝ่ายจากสืบสวนที่ไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนี เพื่อที่จะได้เห็นเลขทะเบียนของรถจักรยานยนต์ได้ชัดเจนขึ้นในการขอศาลอนุมัติหมายจับ รวมถึงกำลังตรวจสอบว่าเหตุทะเลาะวิวาทกันของกลุ่มวัยรุ่นภายในปั๊มแห่งเดียวกันก่อนหน้านี้มีความเกี่ยวข้องกับเหตุที่เกิดขึ้นหรือไม่ ทั้งนี้ยืนยันจะเร่งดำเนินการจับกุมผู้ก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย