เน็ตบ้าน กทม.จ่อขยับทบต้นทุน ท่อร้อยสาย

โครงการนำสายสื่อสารลงดินเพื่อจัดระเบียบเมืองให้ทันสมัย น่าจะเป็นข่าวดีของคนกรุง แต่เพราะรูปแบบการดำเนินการที่บิดเบี้ยว กลับกลายเป็นการสร้างต้นทุนให้สูงขึ้น จนผู้บริโภคอาจได้รับผลกระทบ แต่จะมีเอกชนเพียงรายเดียว ที่จะได้รับผลประโยชน์จากโครงการนี้ ไปเต็มๆ หรือไม่ ไปติดตามจากรายงานคุณวชิรวิทย์ เลิศบำรุงชัย

หลังจากบริษัท ทรู อินเตอร์เน็ต คอปอเรชั่น จำกัด เป็นผู้ได้รับสัมปทานจาก บริษัทกรุงเทพธนาคมจำกัด ให้เป็นผู้ดำเนินการวางท่อร้อยสาย กลุ่มผู้ประกอบการกิจการโทรคมนาคม จำนวน 6 ราย ก็ได้เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คัดค้านการได้รับสัมปทานดังกล่าวของ ทรู เนื่องจาก เป็นการให้เอกชนผูกขาดความจุท่อร้อยสาย 80% มอบสิทธิ์ให้เอกชนมากกว่าใบอนุญาตที่ กรุงเทพธนาคมได้รับ 15 ปี กระทบการแข่งขัน เอกชนคู่สัญญาได้รับกำไรส่วนเกินระยะยาว ค่าใช้บริการท่อร้อยสายอาจสูงเกินควร และอาจมีต้นทุนจากการเช่าท่อร้อยสาย 95 ล้านบาท/ปี ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา หนึ่งในคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ในฐานะนักวิชาการ ตั้งข้อสังเกตุว่า ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้เน็ตบ้านในกรุงเทพ มีราคาสูงขึ้นยกเว้นทรู เจ้าเดียว ที่อาจตัดราคาให้ต่ำกว่าคู่แข่งรายอื่น เพราะเป็นเจ้าของสัมปทานท่อร้อยสายหรือไม่ น่าสังเกตว่า แทนที่โครงการนำสายสื่อสารลงดินจะเป็นข่าวดีว่ามีการจัดระเบียบเมืองให้ทันสมัย แต่เพราะรูปแบบการดำเนินการที่บิดเบี้ยว กลับกลายเป็นการสร้างต้นทุนให้สูงขึ้น จนผูบริโภคอาจได้รับผลกระทบ แต่เอกชนเพียงรายหนึ่งได้รับผลประโยชน์ไปเต็มๆ หรือไม่ กรรมการผู้อำนวยการบริษัทกรุงเทพธนาคม ทั้งนี้ยืนยันว่าโครงการดังกล่าวไม่ได้ผูกขาด แต่เมื่อบริษัททรูเป็นรายเดียวที่เข้ามาเสนอก็ต้องพิจารณา ยังมีคำถามอีกมาก สำหรับโครงการนี้ เช่น กสทช.ยังไม่กำหนดค่าเช่ากลางออกมา  แต่เปิดประมูลให้เอกชนมาใช้แล้ว แบบนี้จะคิดราคายังไง เอาตัวเลขไหนมาพื้นฐาน เป็นต้น