(คลิปข่าว) เจรจาไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบินกับซีพีไร้ข้อสรุป

ผลการเจรจาระหว่างคณะอนุกรรมการคัดเลือกไฮสปีดกับกลุ่มซีพียังไร้ข้อสรุป นัดหารืออีกครั้ง 12 ก.พ. ด้าน ร.ฟ.ท.ชี้กลุ่มบีเอสอาร์ยังไม่ถูกตัดสิทธิจากการประมูล

อธิบดีอัยการ สำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย สำนักอัยการสูงสุด ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูง หรือไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน พฤฒิพร เนติโพธิ์ ระบุ การเจรจากับกลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร หรือกลุ่มซีพี ผู้เสนอราคาต่ำสุด ได้หารือในรายละเอียดร่างสัญญา ตามที่เอกชนเสนอ โดยการเจรจาถือว่าคืบหน้าไปยังไม่ถึงครึ่งทาง และยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ซึ่งได้นัดเจรจาอีกครั้งในวันที่ 12 ก.พ.นี้ ยืนยันว่าเรื่องที่ส่งผลต่อความเสียหายอย่างรุนแรงต่อภาครัฐจะไม่สามารถรับข้อเสนอได้ โดยคณะอนุกรรมการฯจะรายงานผลการเจรจาให้คณะกรรมการคัดเลือกรับทราบเป็นระยะ จนกว่าการเจรจาจะได้ข้อยุติ คณะกรรมการคัดเลือกฯตั้งเป้าว่าการเจรจากับกลุ่มซีพีจะต้องได้ข้อสรุปภายในเดือน ก.พ.นี้ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี และลงนามสัญญาในเดือน มี.ค.2562 ด้านรักษาการผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. ในฐานะประธานคณะกรรมการคัดเลือกฯ วรวุฒิ มาลา ระบุ คณะอนุกรรมการฯต้องรายงานความคืบหน้าผลการเจรจาให้คณะกรรมการคัดเลือกฯรับทราบ และหากได้ข้อสรุปจะต้องเจรจากับกลุ่มซีพีด้วยว่ายังต้องการเดินหน้าการเจรจาต่อหรือไม่ เพราะถือว่าเดินมาครึ่งทางแล้ว โดยกรณียกเลิกเจรจาจะต้องเกิดจากความต้องการของทั้ง 2 ฝ่ายส่วนประเด็นการเจรจาขณะนี้คือข้อเสนอที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของ ร.ฟ.ท. หากได้ข้อยุติจะเข้าสู่การเจรจาข้อเสนอที่เป็นเรื่องง่าย และในระหว่างการเจรจาหากซีพีต้องการลดออปชั่นที่เสนอมาก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอด รวมทั้งสามารถถอนออกได้เช่นกัน แต่ขณะนี้ไม่สามารถบอกรายละเอียดข้อเสนอได้ เพราะอยู่ในขั้นตอนเจรจา และท้ายสุดรัฐอาจไม่รับข้อเสนอตามที่คิดเลยก็ได้เมื่อการเจรจาได้ข้อสรุป คณะกรรมการคัดเลือกฯจะสรุปผลทั้งหมดเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือบอร์ดอีอีซี และคระรัฐมนตรีพิจารณา โดยจะรายงานทั้งข้อเสนอที่รับไว้และข้อเสนอที่ไม่ได้รับ แต่หากบอรืดอีอีซี หรือคณะรัฐมนตรีจะนำข้อเสนอที่ไม่ได้รับไว้มาพิจารณาอีกก็สามารถทำได้ แต่เชื่อว่าคงไม่พิจารณาข้อเสนอที่อยู่นอกเหนือเงื่อนไขทีโออาร์ส่วนกรณีกลุ่มบีเอสอาร์ จอยท์เวนเจอร์ มีบมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เป็นแกนนำ ซึ่งเป็นผู้เสนอราคาต่ำเป็นอันดับ 2  ยังไม่ถือว่าถูกตัดสิทธิจากการเจรจา เพราะทีโออาร์ไม่ได้ระบุถึงการตัดสิทธิเอกชนที่เสนอขอเงินอุดหนุนจากรัฐเกินกว่ากรอบที่กำหนดคือ 119,425 ล้านบาท โดยระบุเพียงว่าให้เจรจากับผู้ที่เสนอขอเงินอุดหนุนจากรัฐต่ำสุดเป็นรายแรกก่อน