ศรัทธาสายมู

เปิดคาถาดี 'หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ' สั้น กระชับ เป็นเมตตามหานิยม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รู้จักพระคาถาดี มนต์สำคัญ ของ หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ แห่ง สุสานทุ่งมน จ.สุรินทร์ เป็นเมตตามหานิยม เป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย


หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ  หรือ พระครูปราสาทพรหมคุณ แห่งสุสานทุ่งมน วัดเพชรบุรี อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ อดีตพระเกจิชื่อดังแห่งดินแดนอีสานใต้ ด้วยมีเรื่องราว มีประสบการณ์ต่างๆ จนนักสะสมพระต่างต้องการได้มาครอบครองเพื่อเป็นที่พึ่งทางใจ 

หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ
สำหรับประวัติของ หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ  ท่านมีนามเดิมว่า สุวรรณหงษ์ จะมัวดี เกิดเมื่อวันที่ 5 มี.ค.2461 ที่บ้านทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 ที่โรงเรียนวัดอุทุมพร บ้านทุ่งมน เมื่ออายุท่าน 18 ปี ด้วยความเป็นวัยรุ่นอารมณ์ร้อน มารดาขอร้องให้บวชเณร ซึ่งท่านไม่ได้ขัดข้องและทำตามคำขอนั้น และมีความตั้งใจว่า จะบวชเณรเพียง 7 วัน 

แต่เมื่อเวลาครบมาถึงวันที่ 7 ในการเป็นเณร หลวงปู่หงส์เกิดมีความคิดที่เปลี่ยนแปลง และมีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาขึ้น จึงได้เป็นเณรต่อมา จนอายุครบ 20 ปี จึงได้ทำการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่ วัดเพชรบุรี ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ มีพระอาจารย์แป้นเป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับฉายาว่า  “พรหมปัญโญ” แปลว่า “ผู้มีปัญญาดุจพรหม”

มื่ออุปสมบทแล้ว ด้วยความตั้งใจ และ ขยันหมั่นเพียรศึกษาพระปริยัติธรรม หลวงปู่หงษ์ในครั้งเป็นพนระภิกษุหนุ่ม มีความจำจดท่องแม่นยำ แสวงหาความรู้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย มีครูดีมีวิชาความรู้ที่ใด ต่อให้ไกลขนาดไหน ท่านก็เดินทางไปพบไปเรียนอย่างต่อเนื่อง   ในปีพ.ศ.2482 สอบได้นักธรรมชั้นตรี จากสำนักโรงเรียนวัดอุทุมพร ถัดมาพ.ศ.2483 เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนผู้ใหญ่เพิ่มเติม สอบได้ระดับชั้นปลายภาคจากวัดศรีลำยอง ต.สมุด

เมื่อครองสมณเพศมาจนครบ 3 พรรษาแล้ว หลวงปู่หงษ์จึงได้กราบลาพระอุปัชฌาย์จาริกถือธุดงควัตร อาศัยอยู่ตามโคนไม้ นุ่งห่มใช้ผ้าเพียงสามผืน ถือที่สงบสัปปายะ เช่น ป่าช้าเป็นที่เจริญภาวนาเช้าค่ำ ขบฉันภัตตาหารเพียงมื้อเดียว และเดินทางไปสู่เมืองขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ด้วยมีความเชื่อถือและบอกกล่าวกันว่าพื้นถิ่นแห่งนี้ เต็มไปด้วยสรรวิชาอาคมต่างๆ หลวงปู่หงษ์ จึงได้เข้าขอศึกษากับครูอาจารย์ที่เป็นทั้งฆราวาส และ ครูบาอาจารย์ภิกษุสงฆ์ เมื่อได้ร่ำเรียนจนเป็นที่พอใจแล้ว ท่านจึงบ่ายหน้าเข้าสู่ประเทศกัมพูชา ในข้อมูลประวัติของท่านระบุว่า หลวงปู่หงส์มุ่งหน้าสู่กรุงพนมเปญ ซึ่งว่ากันว่าเป็นต้นธารในแขนงอาคมที่เข้มขลังอีกหนึ่งสายวิชา

มื่อธุดงค์เข้าเขตประเทศกัมพูชา พบกับครูบาอาจารย์ศึกษาสรรพวิชา ทั้งคาถาเมตตา มหาเสน่ห์ กำบังภัยทั้งคุ้มครอง แคล้วคลาดกันอาวุธปืน หอก ดาบ เขี้ยว งา ช้างเสือ หุงสีผึ้ง กันยาเบื่อ ทั้งคุณไสย ทำน้ำมนต์รดอาบ
 


เมื่อกลับสู่ประเทศไทย หลวงปู่หงษ์ มีหน้าที่ต่างๆทางคณะสงฆ์ตามลำดับ พ.ศ.2516 เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ แต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดเพชรบุรี พ.ศ.2519 รับตราตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลทุ่งมน พ.ศ.2525 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2542 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลทุ่งมน


ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2523 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ในราชทินนามที่ พระครูประสาทพรหมคุณ พ.ศ.2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามเดิม

ชื่อเสียงของหลวงปู่หงษ์นั้น เลื่องลือด้วยตำนานการบอกเหล่าบอกขาน หนึ่งในตำนานความเข้มขลังที่ได้ยินได้ฟังมา นั่นคือในคราวเกิดสงครามตามชายแดนนั้น ชาวบ้านบางส่วนไปขอพึ่งใบบุญท่าน ที่อาศัยในกระต๊อบเล็กๆเป็นที่พัก ในขณะนั้นมีระเบิดตกในพื้นที่ดังกล่าว แต่ปรากฎเป็นอัศจรรย์ว่า ระเบิดเหล่านั้น ไม่ได้ตกตรงกระต๊อบน้อย แต่ตกสู่พื้นรายรอบกระต๊อบท่าน และได้มีการระเบิดแต่อย่างใด

หลวงปู่หงษ์มีวันเกิดและวันมรณภาพวันเดียวกัน คือ วันที่ 5 มี.ค. โดยท่านได้ละสังขารอย่างสงบ ในวันที่  5 มี.ค.2557 ด้วยวัย 97 ปี พรรษา 77

นอกเหนือจากวัตถุมงคลที่นักสะสมวัตถุมงคล ให้การยอมรับ และเชื่อมั่นในพุทธคุณ ที่หลวงปู่หงษ์ได้จัดสร้างไว้นั้น ยังมีพระคาถาสำคัญ ที่ศิษยานุศิษย์ และผู้ศรัทธา ต่าง สวดบูชากันอย่างกว้างขวาง เป็นพระคาถาสั้นๆ 3 คำ นั่นคือ  "นะ เม ติ"
พระคาถาบทนี้เป็นคาถา ประจำสำนัก ที่หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ได้ให้ศิษย์ภาวนาเวลาจะสื่อกับครูบาอาจารย์ หลวงปู่ท่านเคยบอกว่า "เราภาวนา นะเมติ นี้หนาสะเทือนขึ้นไปถึงพรหมโลก"
หมายถึงว่าหากเราภาวนาว่า “นะเมติ” แล้วจะสามารถสื่อไปไกลสุดแดน จนถึงครูบาอาจารย์ผู้สถิตย์อยู่บนชั้นพรหมโลก
และความหมายของ “นะเมติ” นี้หลวงปู่ท่านบอกว่าหมายถึง “รสน้ำนมแม่พระธรณี ซึ่งก็คือ อาหาร พืชพันธุ์ ข้าว น้ำต่าง ๆ ที่เลี้ยงดูทุก สรรพชีวิต อย่างไม่ลำเอียง ใครจะปลูก ใครจะหว่าน ใครจะเก็บเกี่ยว เอาไปกินไม่ว่า คนหรือสัตว์ ไม่ว่าคนรวยหรือคนจน พระสงฆ์ เณร ชี หรือ อลัชชี มหาโจร คนต่ำทราม แม่พระธรณีก็ไม่เคยรังเกียจมีคุณให้การเลี้ยงดูเท่า ๆ กันหมด แล้วแต่ใครจะเก็บเกี่ยวใช้สอยได้มากเท่าใด”

“นะเมติ” รสน้ำนมแม่พระธรณี นี้จึงเปรียบเสมือน คุณครูบาอาจารย์ ที่ไม่เคยรังเกียจเดียดฉันท์ ลูกศิษย์คนใด ที่เคารพนับถือ หลวงปู่ฯ ท่านถึงไม่เคย ดุด่าว่ากล่าวลูกศิษย์คนไหน ก็ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยเมตตา หนักแน่น เยือกเย็นดั่งคุณของพระแม่ธรณีนั่นเอง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ