เยือนพื้นที่ประวัติศาตร์อยุธยา วัดแร้ง โบราณสถาน นักลงทุนผู้ศรัทธา ตั้งร้านกาแฟ ปรับปรุงพื้นที่ เปิดแหล่งเรียนรู้ คู่ความเชื่อ ตั้งศาลแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ เป็นที่สักการะ
ปกติแล้ว ศรัทธาสายมู จะพาไปลัดเลาะเสาะหา สถานที่ หรือ วัดวาอาราม ที่มีเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ มีความน่าสนใจ เรื่องราว และตำนาน ครั้งนี้ ดูจะเป็นหนึ่งครั้งที่เราจะแตกต่างออกไปเล็กน้อย จากวิถีและแนวทาง นำเรื่องราวประวัติศาสตร์จริง มาร่วมเล่าบอก ด้วยพันเกี่ยวกับความเชื่อและความเร้นลับ
เชื่อว่าน้อยนักคนไปไหว้พระที่อยุธยา จะไม่เคยไปยังวัดหน้าพระเมรุฯ หรือก็มุ่งหน้าเข้าไปสักการะพญาครุฑองค์ใหญ่ที่วัดครุฑธาราม แต่หากน้อยคน ถ้าไม่ใช่สายศึกษาประวัติศาสตร์ จะไม่ได้สนใจหรือให้ความใส่ใจกับ วัดโบราณสถานรกร้าง ที่อยู่ตอนกลางของเส้นทาง ที่มีชื่อว่า วัดเจ้าย่า เพราะอารามแห่งนี้ติดต่อกับวัดเก่าในพงไม้ไม่ใกล้กันนักที่ชื่อ วัดแร้ง จุดที่เคยเป็นทุ่งสังหารคราวต่อสู้ของกลุ่มขุนวรวงศาธิราช และ แม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ กับ ขุนนางฝ่ายเหนือ ที่นำโดยขุนพิเรนทรเทพ เชื้อสายราชวงศ์พระร่วง สถานที่ตรงนี้เป็นเสมือนจุดเปลี่ยนของประวัติศาสตร์อยุธยาก็ว่าได้
ที่ว่าเป็นจุดเปลี่ยนนั้น เพราะเป็นการช่วงชิงอำนาจกัน ระหว่างฝ่ายขุนวรวงศาธิราช กับ ขุนนางหัวเมืองเหนือ ตรงนี้ หากใครศึกษาพงศาวดารดีๆ จะพบว่า จุดสำคัญหรือจุดเปลี่ยนทางการเมืองของขุนวรวงศาธิราช ไม่น่าจะใช่เพราะเรื่องการชิงราชสมบัติ เพราะถ้าวิเคราะห์กันให้ดี ไม่ว่าจะการฆ่าพระยอดฟ้าก็ดี การฆ่าสมุหกลาโหมก็ดี ไม่มีใครในอยุธยาเข้ามาต่อต้าน ทำให้มองได้ว่า ฐานอำนาจขุนวรวงศาธิราชกับแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์นั้น แข็งแรง มั่นคง อย่างมาก
แต่จุดเปลี่ยนนั้น อยู่ที่ว่ามีข้อมูล7หัวเมืองเหนือกระด้างกระเดื่อง และขุนวรวงศาธิราช อยากจะเปลี่ยนเอาคนตัวเองไปครองแทน ตรงจุดนี้ จะเป็นไปได้หรือไม่ว่า การที่ขุนนางหัวเมืองเหนือเข้ามาเกี่ยวข้องกับอยุธยา ในส่วนการเปลี่ยนแปลงของพระมหากษัตริย์ เป็นเรื่องของการต้องการรักษาอำนาจของพวกตน และใช้ข้ออ้างความไม่ชอบธรรมในการขึ้นครองอยุธยา มาเป็นจุดในการก่อการ
และจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้มีอีกความเปลี่ยนแปลงสำคัญเกิดขึ้น นั่นก็คือการที่หัวเมืองเหนือเข้ามามีบทบาทในราชสำนักมากขึ้น โดยผ่านขุนพิเรนทรเทพ ที่ได้รับสถาปนาเป็นพระมหาธรรมราชา และก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นรอยร้าวฉานระหว่างอยุธยาและพิษณุโลก เพราะเป็นที่ทราบกันดีในช่วงเวลานั้นว่า หากมีใครที่ครองพิษณุโลก ก็มีแนวโน้มที่จะได้ขึ้นครองราชย์ที่อยุธยา แต่พระมหาจักรพรรดิ แต่งตั้งตำแหน่ง พระราเมศวร ขึ้นมา และการเข้ามาของหัวเมืองเหนือ คือจุดจบของราชวงศ์อู่ทอง และจุดเริ่มต้นของการล่มสลายแห่งราชวงศ์สุพรรณภูมิไปพร้อมๆกัน
ในส่วนประวัติศาสตร์ก็เล่าพอเป็นสังเขปตามข้างต้น กลับมาที่ปัจจุบัน พื้นที่วัดแร้ง จากที่เคยอยู่ในพุ่มป่า ด้านหน้าเป็นที่มีเจ้าของ และปั้นแต่งเป็นร้านกาแฟ ชื่อว่า มีที่มา บรรยากาศ ต่างจากที่เคยมาสำรวจเมื่อ 3 ปีก่อนอย่างเห็นได้ชัด จากบ้านเก่าปิดร้าง เป็นร้านกาแฟร่มรื่น สะอาดตา และศาลสถิตย์ ดวงพระวิญญาณแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ ที่เมื่อ 3 ปีก่อนเป็นเพียงศาลไม้หลังเล็ก ปัจจุบัน เป็นศาลใหญ่ ประดิษฐานหุ่นขนาดเท่าคนจริงด้านใน ทรงเครื่องแบบนางกษัตรีย์
คุณแดง เจ้าของร้าน มีที่มา เปิดเผยข้อมูล แบบไม่ขอให้ถ่ายสกรู๊ปออกสื่อว่า เดิมพื้นที่วัดแร้งเคยมีคนอยู่ ซึ่งปัจจุบัน เป็นบ้านไม้ขนาดกลางที่อยู่ถัดร้านกาแฟไป แต่ไม่สามารถอยู่ได้จึงย้ายลงมา และตัวร้านเดิมเป็นที่พักคนงาน ก็ไม่มีใครสามารถพักอาศัยได้เช่นกัน จนมาไม่นาน ตนมีความคิดว่า อยากจะทำธุรกิจเล็กๆ จึงทำการเปิดเป็นร้านกาแฟขึ้น และด้วยความคิดที่ว่า พื้นที่ร้านเราอยู่บนจุดสำคัญทางประวัติศาสตร์ของอยุธยา จึงอยากทำให้สวยงาม และหวังให้เป็นแหล่งเรียนรู้จุดใหม่ ที่ผู้คนสามารถมาชมได้ และนอกจากนี้ ยังมีความเคารพให้แม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ เพราะมีคนที่นับถือที่รู้จักกัน บอกว่าดวงพระวิญญาณยังสถิตย์อยู่ ณ วัดแร้งนี้ และอยากให้คุณแดงดูแลพื้นที่ตรงนี้ จึงได้ทำการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และตั้งศาลใหม่ขนาดใหญ๋ ซึ่งใช้ทุนทรัพย์จำนวนมาก
แต่คุณแดง ก็เล่าให้ฟังต่อไปว่า ก็นับเป็นเรื่องแปลกและความบังเอิญ ไม่ว่าจะการหุ่นตัวแทนพระนาง ศาลไม้่ขนาดใหญ่ จากที่ติดขัดทางการเงินดำเนินการ กลับสามารถทำได้จนแล้วเสร็จ มีผู้ที่มาร่วมบุญก่อสร้างจนสำเร็จ กระทั่งมีนายทหารมีมีความเชื่อ มาช่วยเหลือด้านแรงงานในการตั้งศาล
ส่วนตัวคุณแดงนั้น มีความเชื่อมั่นและความศรัทธา ในแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์อย่างมาก แม้ที่ผ่านมาจะเป็นคนที่ยึดในหลักวิทยาศาสตร์อย่างมั่นคง แต่การที่มาอยู่ในพื้นที่ตรงนี้ กลับทำให้ความคิด เปลี่ยนแปลงไป และตั้งใจจะดูแลและเผยแพร่แง่มุมอีกด้านของกษัตรีย์หนึ่งเดียวพระองค์นี้ต่อไป ในรูปแบบการเปิดพื้นที่ทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้และพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ในเวลาเดียว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง