ข้อพิพาทวัดบางคลานบานปลาย ชาวบ้านล้อมวัด จี้ตั้งกรรมการร่วมทุกฝ่าย

ปัญหาความวุ่นวายวัดหลวงพ่อเงินยังไม่คลี่คลาย จากกรณีข้อพิพาทเรื่องทรัพย์สินของวัดบางคลาน หรือ วัดหิรัญญาราม อ.โพทะเล จ.พิจิตร ที่ยืดเยื้อ จนมีการชุมนุมภายในวัด รวมทั้งฟ้องร้องต่อศาล จนล่าสุด มีการปะทะกันเกิดขึ้น โดยฝ่ายความมั่นคง ที่ทำการปกครองอำเภอโพทะเล จ.พิจิตร รายงานว่ามวลชนที่สนับสนุนอดีตเจ้าอาวาสวัดบางคลาน ประมาณ 100 คน ได้รวมตัวกันเข้ายึดพื้นที่วัด พร้อมปิดประตูวัดหมดทุกด้าน

ตั้งแต่เช้า มีทั้งชาวบ้านและชายชุดดำผมเกรียนอ้างตัวว่าเป็นทหารพากลุ่มคนบุกเข้ายึดวัดและวิหารซึ่งเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อเงิน จากนั้นได้มีการขัดขวางจากกรรมการวัด คนงานของวัด จึงทำให้กลุ่มชายชุดดำผมเกรียนเข้าใช้กำลังทุบตีชกต่อยด้วยสนับมือเป็นเหตุให้คนงานชาย 4 คน ได้รับบาดเจ็บ
ด้าน นายพยนต์  อัศวพิชยนต์   ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร  พร้อมด้วยกำลังตำรวจและฝ่ายปกครอง เดินทางเข้าไปที่วัด เพื่อควบคุมสถานการณ์

น.ส.สุภา อยู่ยืด ประธานองค์กรชุมชนรักษ์วัดบางคลาน พร้อมชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ยังคงเรียกร้องและไม่ยอมให้มีการส่งมอบทรัพย์สินให้แก่เจ้าอาวาสวัดคนปัจจุบันนี้ เนื่องจากยังคงมีคดีความค้างที่ศาล แม้ว่าฝ่ายเจ้าอาวาสได้แถลงต่อศาลให้เปลี่ยนตัวผู้รักษาทรัพย์ จากน.ส.สุภา มาเป็นเจ้าอาวาสหรือผู้แทนเจ้าอาวาสในการบังคับคดี และนัดส่งมอบทรัพย์ ในวันที่ 5 เมษาเม.ย.ที่ผ่านมา  แต่ด้วยชาวบ้านขาดความไว้วางใจในตัวของเจ้าอาวาสและตัวแทนของเจ้าอาวาส จึงอยากให้เลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากเจ้าอาวาสได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรไม่เป็นไปตามระเบียบการปกครองสงฆ์ และถูกร้องเรียนว่าเจ้าคณะจังหวัดได้เสพเมถุน มีเมียมีลูก เรื่องที่เกิดขึ้นดังไปทั่วประเทศ

น.ส.สุภา กล่าวว่า ที่ผ่านมาเรื่องร้องเรียนพฤติกรรมเจ้าอาวาสเรื่องกลับนิ่ง และเงียบไป แบบไม่มีการโต้ตอบหรือชี้แจงข้อเท็จจริง จึงมีพิรุธต่อไปในทาง ไม่ชอบมาพากล จนที่สุดเจ้าคณะจังหวัด ถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ ส่วนเจ้าอาวาส องค์ปัจจุบัน มีพฤติกรรมต่อไปในทางทุจริตจนเกิดการฟ้องร้องดำเนินคดี และท้ายที่สุดถูกร้องเรียนไปที่ ป.ป.ช.หลายประเด็น อาทิ เอาเงินวัดหิรัญญารามไปก่อตั้งมูลนิธิหลวงพ่อเงิน การซื้อที่ดินราคาแพงเกินจริง ได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะ ของวัดแพงเกินจริง การสร้างท้าวเวสสุวรรณไม่ได้ขออนุญาตตามมติมหาเถรสมาคม

และการจัดสร้างวัตถุมงคล 2 รุ่น ไม่มีการชี้แจงรายรับรายจ่ายทุกรุ่น สุดท้ายได้มีการใช้เงินของวัดไม่ตรงกับรายงานการเงินประจำปี ตามกฎกระทรวง การดูแลรักษาของวัดรวมค่าเสียหายกว่า 100 ล้านบาท

น.ส.สุภา ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนคดีทั้งหมดทางทนายความของอดีตเจ้าอาวาสได้ยื่นอุทธรณ์ในเรื่องการเปลี่ยนตัวผู้รักษาการไว้แล้ว ในส่วนการจัดการมรดกของอดีตเจ้าอาวาสศาลได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้วัดเป็นผู้จัดการมรดก แต่คดียังไม่ถึงที่สุดซึ่งทางทนายความของอดีตเจ้าอาวาสได้ยื่นอุทธรณ์รอการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 6 ส่วนกรณีการบังคับคดีทนายความของอดีตเจ้าอาวาสได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอเลื่อนการ ส่งมอบทรัพย์สินในนี้ วันที่ 5 เมษายน 2566 ไปก่อนเพราะศาลอุทธรณ์ภาค 6 นับวันฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 6 ภายในวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 นี้เกี่ยวกับเรื่องการยกเลิกเพิกถอนการบังคับคดี จึงมีเหตุจำเป็นที่จะต้องรอฟังผลคดี ให้สิ้นกระแสความก่อน

“ขอเรียกร้องให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการทุกฝ่ายเข้ามาดูแลทรัพย์สินของวัดโดยชาวบ้านขอแต่งตั้งตัวแทนเข้าร่วมด้วย เพื่อความ สงบสุขสันติของวัดบางคลานต่อไป” นางสุภากล่าว