ชาวบ้านรวมตัวปกป้องวัด ปมข้อพิพาท ตรวจสอบเงินบัญชีวัดบางคลาน พิจิตร

เรื่องทรัพย์สินวัดบางคลาน ยังไม่จบ ชาวบ้านจังหวัดพิจิตรมารวมตัวกันปกป้องวัดและสถานการณ์ ของวัดหิรัญญาราม หรือ วัดบางคลาน ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร สาเหตุการร้าวลึกระหว่างวัดกับชาวบ้านปัญหาที่เกิดจากเงินในบัญชีของวัดจำนวน 106 ล้านบาท หากรวมดอกเบี้ยเป็นจำนวนเงินไม่ต่ำกว่า 130 ล้าน โดยได้มีเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร พระครูสิทธิเวที ได้มีการขอเงินวัดหลายๆครั้งครั้งละหลายแสนบาท และครั้งล่าสุดได้ทำการขอเงินจำนวน 2 ล้านบาท ซึ่งขณะนั้นกรรมการวัดได้พิจารณาแล้ว มีมติไม่อนุมัติเงินจำนวน 2 ล้านบาทให้กับเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ตามที่ได้ร้องขอ จึงได้กลายเป็นชนวนในการเกิดข้อพิพาทระหว่างวัดกับชาวบ้านมาตลอด 

และยิ่งกว่านั้นทางเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรได้มีคำสั่งปลดอดีตเจ้าอาวาสวัดบางคลาน ที่ชาวบ้าน เขาได้เคารพศรัทธา ออกจากตำแหน่ง แล้วกลับมาแต่งตั้ง พระครูพิสุทธิ์ทิวากร มาเป็นรักษาการ แทนเจ้าอาวาสคนเก่า ในขณะนั้น ตรงกันข้ามท่ามกลางการคัดค้านของชาวบ้านตำบลบางคลาน เป็นอย่างหนัก
 

ในขณะที่พระครูพิสุทธิวรากรได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ได้มี การห้ามชาวบ้าน ไม่ให้ทำบุญที่วัด ในขณะ ชาวบ้าน ตำบลบางคลาน ได้รับผลกระทบ จากการ ถูก ทางวัดดำเนินคดี ฟ้องร้องนับเป็นร้อยคดี  นางสุภา อยู่ยืด พร้อมชาวบ้านจึงรวมตัวขับไล่พรรคพวกของพระครูพิสุทธิวรากรที่เข้ามาหาผลประโยชน์ให้กับพวกพ้องของตัวเอง

ล่าสุด นายพยนต์  อัศวพิชยนต์   ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร  พร้อมด้วยกำลังตำรวจและฝ่ายปกครอง เพื่อระงับเหตุ หลังมีกลุ่มบุคคลดังกล่าวประมาณ 100 คน มีทั้งชาวบ้านและชายชุดดำผมเกรียนอ้างตัวว่าเป็นทหารพากลุ่มคนบุกเข้ายึดวัดและวิหารซึ่งเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อเงิน จากนั้นได้มีการขัดขวางจากกรรมการวัด-คนงานของวัด จึงทำให้กลุ่มชายชุดดำผมเกรียนเข้าใช้กำลังทุบตีชกต่อยด้วยสนับมือเป็นเหตุให้คนงานชาย 4 คน ได้รับบาดเจ็บต้องส่งตัวไปทำแผลที่โรงพยาบาล นอกจากนี้คนงานหญิงอีก 3 คน ก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ดี สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นนี้ มีการร้องเรียนกันมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งปี 2561 ชาวบ้านชุมชนวัดบางคลาน ร้อง นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  สมัยที่ยังเป็นหัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป ตรวจสอบพฤติกรรม รักษาการเจ้าอาวาสวัดบางคลาน หลังพบเบิกเงินจากบัญชีวัดกว่า 39 ล้านบาท โดยไม่ชี้แจงให้กระจ่าง

รวมทั้งก่อนหน้านี้มีการฟ้องร้องกัน จนถึงขั้นนายสุพจน์ รัตนรุ่งเรือง รักษาการนายอำเภอโพทะเล พ.ต.อ.วัชรเกียรติ ศิริวิมลฤทธิ์ ผกก.สภ.โพทะเล นางวลัชณัฏฐ์ กุลสิริอิทธิกร ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัดพิจิตร นางสาวอนันยา เจียมศรีพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยกำลังฝ่ายปกครอง-ตำรวจ-อส. ยกทีมกว่า 100 คน ถือคำพิพากษาบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลฎีกา เพื่อจะปฏิบัติตามคำพิพากษาบังคับคดี

ที่ให้จำเลยที่ 1 คือ พระครูวิสิฐสีลาภรณ์ ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาวาส หลวงพ่อเงินบางคลาน ให้ส่งมอบสมุดคุมบัญชีทรัพย์สินรายรับ-รายจ่าย พัสดุเอกสาร สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร บัญชีการจำหน่ายวัตถุมงคล ของวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ให้แก่โจทก์ คือ พระครูพิสุทธิวรากร ซึ่งเป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ที่ได้รับการแต่งตั้งถูกต้องตามกฎหมายของคณะสงฆ์ ห้ามจำเลยทั้ง 10 คน ขัดขวางการดำเนินกิจการของวัดริรัญญาราม และกิจการคณะสงฆ์ห้ามเปิดตู้บริจาคใช้เงินทุกตู้ ห้ามยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของวัดจากรายได้ หรือกิจการภายในของวัด โดยบังคับคดีได้ไปพร้อมกับตัวแทนของโจทก์ ทนายความของโจทก์

ส่วนในวัดมีกลุ่มมวลชนปิดประตูทางเข้า-ออก ของวัด คล้องโซ่และใส่กุญแจ การเข้าตรวจสอบทรัพย์สินในวัดให้รักษาการเจ้าอาวาสกับตัวแทน 10 คนเข้าไปได้เท่านั้น